สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีแนวคิดที่จะปรับหลักเกณฑ์เพื่อรองรับระบบงานอนุมัติจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมแบบไร้กระดาษ เพื่อให้ภาคธุรกิจได้รับความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และลดการสิ้นเปลืองทรัพยากรจากการใช้กระดาษจำนวนมาก สอดคล้องแผนพัฒนาตลาดทุนไทยด้านความยั่งยืนของกิจการ
อีกทั้งร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นตัวการสำคัญทำลายชั้นบรรยากาศซึ่งส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก โดยลดการใช้ทรัพยากรและเวลาในการดำเนินการ และลดภาระของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ในการจัดเตรียมและนำส่งเอกสารเพื่อยื่นขออนุมัติจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมด้วยการยื่นผ่านระบบที่จัดไว้บนเว็บไซต์ของ ก.ล.ต. รวมทั้งปรับปรุงหลักเกณฑ์เพื่อเพิ่มช่องทางในการเปิดเผยข้อมูลการจ่ายเงินปันผล
ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวเป็นไปตามแผนพัฒนาตลาดทุนไทยด้านความยั่งยืนของกิจการ โดยคาดว่าจะช่วยลดปริมาณการใช้กระดาษของภาคธุรกิจได้ถึง 1.6 ล้านแผ่นต่อปี หรือคิดเป็นปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 39 ตันต่อปี อีกทั้งช่วยประหยัดต้นทุน เช่น ค่าจัดส่งเอกสาร ค่าไฟฟ้า และค่าจัดเก็บเอกสาร คิดเป็นเงินประมาณปีละ 1 ล้านบาท
ก.ล.ต. จึงเปิดรับฟังความเห็นการปรังปรุงร่างประกาศที่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวข้างต้น รวมถึงการปรับปรุงถ้อยคำในเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการกองทุนรวมเพื่อให้มีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากที่ได้เปิดรับฟังความเห็นจากผู้เกี่ยวข้องในหลักการก่อนหน้านี้แล้วในช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางที่ ก.ล.ต. เสนอ
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=583 ผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง e-mail: rattaya@sec.or.th หรือ sumitra@sec.or.th จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2562