นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ฟื้นตัวต่อเนื่องขานรับ Sentiment บวกจากตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นแรงกว่า 6% เมื่อคืนนี้ ตอบรับวุฒิสภาลงมติผ่านร่างกฎหมายเยียวยาเศรษฐกิจจากผลกระทบไวรัสโควิด-19 วงเงิน 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และเฟดอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบสริมสภาพคล่องก่อนหน้านี้ คาดว่าช่วยภาพรวมได้ แต่เชื้อไวรัสระบาดยังอยู่ในช่วงขาขึ้นทั้งสหรัฐและอิตาลีเป็นปัจจัยจำกัดการปรับขึ้นของตลาด ขณะที่ราคาน้ำมันเริ่มมีเสถียรภาพน่าจะช่วยประคองตลาดได้ มองแนวรับ 1,065-1,070 และแนวต้าน 1,100 ถัดไปที่ 1,130-1,135 จุด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า การเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยเช้านี้น่าจะฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง จาก Sentiment หุ้นโลกที่ดีมาก โดยตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้กว่า 6% และนับเป็นการปรับขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ รวมมากกว่า 20% ตอบรับวุฒิสภาลงมติผ่านร่างกฎหมายเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากไวรัสโควิด-19 วงเงิน 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนจะส่งต่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาในวันศุกร์นี้ต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อรวมกับมาตรการทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย และอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็ทำให้เชื่อว่าจะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมได้อย่างดี แต่อย่างไรก็ตามตลาดยังจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มองว่ายังเป็นขาขึ้นในสหรัฐและอิตาลี เป็นปัจจัยที่จำกัดการปรับขึ้นของดัชนี ทำให้เมื่อดีดตัวขึ้นก็อาจจะเผชิญกับแรงขายทำกำไรออกมา
ส่วนราคาน้ำมันที่ร่วงลงแรงเมื่อคืนนี้ แต่ดีดกลับาได้ราว 3% ในตลาดฟิวเจอร์สเช้านี้ น่าจะช่วยลดผลกระทบจากการปรับตัวลงแรงเมื่อคืนได้ โดยภาพรวมแม้ราคาน้ำมันจะสวิงตัวในช่วงนี้ แต่มองราคายืนระดับ 20-25 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น่าจะมีเสถียรภาพมากขึ้น น่าจะช่วยประคองตลาดได้ ขณะที่การลงทุนของต่างชาติในตลาดหุ้นไทยน่าจะยังคงเป็นทิศทางขายต่อเนื่อง จากการดึงเม็ดเงินกลับประเทศ
พร้อมมองแนวรับ 1,065-1,070 จุด และแนวต้าน 1,100 ถัดไป 1,130-1,135 จุด