โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" ADVANC คาดกำไร H2/63 กลับมาฟื้นตัว หลังโควิดคลี่คลาย-การแข่งขันลดลง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 11, 2020 14:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะนำ"ซื้อ"หุ้นบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หลังประกาศผลกำไรปกติไตรมาสที่ 2/63 ดีกว่าที่ตลาดคาด จากค่าใช้จ่ายการขายและการบริหารจัดการ (SG&A) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แม้กำไรปกติจะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อน เพราะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 แต่มองว่าน่าจะเป็นระดับกำไรที่ต่ำสุดรอบปีนี้แล้ว ก่อนจะกลับมาเติบโตได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ตามภาวะของเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวและสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่อนคลายมากขึ้น ประกอบกับการแข่งขันของตลาดผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือลดลง

นอกจากนี้ ADVANC ยังประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลในช่วงครึ่งแรกปีนี้ที่ระดับ 3.24 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ราว 1.7% โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 19 ส.ค.นี้

พักเที่ยงราคาหุ้น ADVANC อยู่ที่ 191.50 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท หรือ 0.52% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ปรับขึ้น 1.57%

          โบรกเกอร์                   คำแนะนำ               ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          เคทีบี (ประเทศไทย)             ซื้อ                       225
          แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์               ซื้อ                       210
          ฟิลลิป (ประเทศไทย)             ซื้อ                       217
          ดีบีเอส วิคเคอร์สฯ               ซื้อ                       211
          เคจีไอ (ประเทศไทย)            ซื้อ                       241
          หยวนต้า (ประเทศไทย)           ซื้อ                       220
          คิงส์ฟอร์ด                      ซื้อ                       225

นักวิเคราะห์บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า กำไรปกติของ ADVANC ในไตรมาส 2/63 ดีกว่าคาดการณ์ของหยวนต้าฯและตลาดคาด 15% และ 3% ตามลำดับ โดยรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/63 ที่ 7 พันล้านบาท แต่หากตัดกำไรอัตราแลกเปลี่ยนและขาดทุนจากการตีมูลค่ายุติธรรม Derivative กำไรปกติอยู่ที่ 6.65 พันล้านบาท หลัก ๆ มาจากการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ทำได้ดีกว่าคาด

นอกจากนี้ภาพรวมการแข่งขันยังทยอยลดความรุนแรงอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากการสำรวจตลาดเดือนส.ค.63 ผู้ประกอบการทุกรายยังเสนอ Unlimited package 4mbps ที่ราคาตั้งต้น 200 บาทและ 10mbps ที่ราคาตั้งต้น 300 บาท หรือที่ระดับราคาเดิมเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่ package 2mbps ถูกปรับราคาตั้งต้นขึ้นจาก 90 บาทเป็น 120 บาท ส่วนการอุดหนุนค่าเครื่องรุนแรงขึ้นบ้างในปลายเดือนก.ค.63 แต่อยู่ในระดับที่ควบคุมได้

อย่างไรก็ดีคงประมาณการปี 63 และอาจมี Upside Risk หากภาพการแข่งขันยังดีต่อเนื่อง จากที่ผ่านมากำไรในช่วงครึ่งปีแรกคิดเป็น 51.5% ของประมาณการกำไรทั้งปี ขณะที่ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรกตามภาวะเศรษฐกิจและผลบวกของ 5G ดังนั้น แม้ยังคงประมาณการกำไรปกติปี 63 ที่ 2.7 หมื่นล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 17% แต่ประมาณการปี 63 ยังมี Upside Risk หากการแข่งขันไม่กลับมารุนแรงอีกครั้ง

นอกจากนี้ ADVANC ยังประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล ในช่วงครึ่งปีแรกที่ 3.24 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield ราว 1.7% โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 19 สค. 63

"ADVANC ประกาศงบไตรมาส 2/63 ออกมาแล้วและดีกว่าที่ตลาดคาด อีกทั้งยังมีปันผลระหว่างกาลให้ด้วย เราให้ราคาเหมาะสมไว้ที่ 220 บาทต่อหุ้น โดยในช่วงครึ่งปีหลังมองว่าจะมีการ recovery ได้ เนื่องจากตลาด Telecom มีการแข่งขันลดลง" นักวิเคราะห์ บล.หยวนต้าฯ กล่าว

ด้านบล.คิงส์ฟอร์ด ระบุในบทวิเคราะห์ ประเมินผลการดำเนินงานของ Operator มือถือได้ผ่านจุดต่ำสุดของปีไปแล้วในไตรมาส 2/63 แต่จากการรายงานงบของทั้ง ADVANC และบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) จะพบว่าทั้งคู่มีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าที่ตลาดคาด โดยมีสาเหตุหลักจาก SG&A ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ในช่วงครึ่งปีหลังค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ก็จะเพิ่มขึ้นตามกิจกรรมทางการตลาด, ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบุคลากรและค่าเช่าที่กลับมาสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตามคงให้น้ำหนักการฟื้นตัวของรายได้บริการตามอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นมากกว่า

สำหรับธุรกิจมือถือลูกค้ากลุ่มเติมเงินยังมีโอกาสไหลออกหรือย้ายไปใช้งานแบบรายเดือนบ้าง แต่ประเมินการไหลออกของลูกค้าจะลดลงในไตรมาส 3 และมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4 ส่วนลูกค้ากลุ่มรายเดือนยังอยู่ในทิศทางที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนั้นยอดการใช้งานต่อหัว (ARPU) ก็มีโอกาสเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงของการเปิดตัวอุปกรณ์มือถือซึ่งเป็นสินค้าเรือธงจากค่ายต่าง ๆ ทั้งนี้ยังต้องติดตามสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ประกอบไปด้วย สำหรับงบลงทุนในปีนี้ (ไม่รวมค่าใบอนุญาต) ADVANC ตั้งเป้าไว้ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท เน้นการขยายโครงขายของคลื่น 2600 MHz 4G และ 5G

อย่างไรก็ดี มีการปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 63-64 ไว้ที่ระดับ 2.96 หมื่นล้านบาท และ 3.2 หมื่นล้านบาท ชะลอตัวลง 6.9% ในปี 63 แต่ขยายตัว 10.7% ในปี 64 สำหรับปี 63 ปรับเพิ่มจากประมาณการเดิมที่ 2.7 หมื่นล้านบาท เติบโต 6.22% ส่วนปี 64 คงประมาณการกำไรเท่าเดิมและประเมินมูลค่าเหมาะสมของ ADVANC ในปี 63 ที่ 225 บาท มี Upside 18.4% คงคำแนะนำ "ซื้อ" ADVANC จะจ่ายปันผลที่ 3.24 บาทต่อหุ้น XD วันที่ 19 ส.ค.63 คิดเป็น Dividend Yield ที่ 1.7%

ด้านบทวิเคราะห์บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุว่า ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ ADVANC ให้ราคาเป้าหมายที่ 225 บาท โดย ADVANC ประกาศกำไรปกติไตรมาส 2/63 ที่ราว 6.7 พันล้านบาท ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด โดยลดลงทั้งจากไตรมาสที่ 1/63 และลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลกระทบโควิด-19 ทำให้รายได้หลักอยู่ที่ราว 3.2 หมื่นล้านบาท แม้ค่าใช้จ่ายลดลงจากค่าเช่าและค่าการตลาดแต่ไม่เพียงพอชดเชยรายได้ที่สูญเสียไป

อย่างไรก็ตามประเมินผลประกอบการไตรมาส 2/63 เป็นจุดต่ำสุดก่อนฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง และยังคงประมาณการกำไรปกติปี 63 ที่ราว 3.2 หมื่นล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อน ในช่วงครึ่งปีแรกมีกำไรปกติคิดเป็นราว 45% ของประมาณการทั้งปี โดยกำไรปกติไตรมาส 2/63 ที่ออกมาใกล้เคียงคาดช่วยเพิ่มความมั่นใจต่อแนวโน้มผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2/63 และจะฟื้นตัวได้

สำหรับปัจจัยหลักที่เข้ามาขับเคลื่อนผลการดำเนินงาน ของ ADVANC ได้แก่ สถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่อนคลายมากขึ้นในไทย จากคาดไม่มีมาตรการช่วยเหลือผู้บริโภคของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ออกมาเพิ่มเติม และ 2) แนวโน้มการแข่งขันผ่อนคลายลง โดยเฉพาะในส่วน package fixed speed unlimited data แม้ยังมีอยู่ในตลาดแต่ได้มีการปรับราคาขึ้น คาดช่วยให้ ARPU ขยายตัวได้ในครึ่งปีหลัง ประเมินประเด็นดังกล่าวช่วยหนุนกำไรขั้นต้นช่วงครึ่งปีหลังขยายตัวกลับไปใกล้เคียง 40% และมีแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังเติบโตได้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ประมาณการในปีนี้มี downside จำกัด

ทั้งนี้ ราคาหุ้น ADVANC ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมากลับมา outperform SET ราว 4% คาดตลาดเริ่มกลับมาให้น้ำหนักผลประกอบการครึ่งปีหลังที่จะเริ่มฟื้นตัวได้ โดยประเมินประเด็นดังกล่าวจะเป็น key catalysts ให้ราคาหุ้น outperform ตลาดได้ต่อเนื่อง นอกจากนี้ปัจจุบันราคาหุ้นเทรด forward PER ที่ราว -0.5SD เป็น trading zone ที่ยังไม่สะท้อนผลประกอบการที่กลับเข้าสู่การเติบโต โดยอดีตที่ผ่านมาหุ้นจะเทรดเหนือค่าเฉลี่ยหากกำไรมีการเติบโต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ