III เจรจาเข้าลงทุนพันธมิตรอีก 2-3 รายชัดเจนปีนี้หลังปิดดีล Shipsmile-Makesend

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 9, 2021 17:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ (III) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรอีก 2-3 ราย เพื่อเข้าลงทุน หลังจากล่าสุดได้เข้าลงทุนใน 2 บริษัทเพื่อต่อยอดธุรกิจ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปีนี้ โดย III วางงบลงทุนรวมไว้ที่ 800 ล้านบาท ส่วนหนึ่งใช้รองรับการลงทุนดังกล่าว รวมถึงการลงทุนการขนส่งผ่านระบบรางในประเทศ และการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (Specialized logistics)

วันนี้ III เข้าซื้อหุ้นสามัญในบริษัท เอ.ที.พี.เฟรนด์ เซอร์วิส จำกัด (Shipsmile) จำนวน 10,200 หุ้น คิดเป็น 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ Shipsmile จาก บริษัท แฟลช มันนี่ จำกัด ในราคาไม่เกิน 105.0 ล้านบาท ซึ่ง Shipsmile ประกอบธุรกิจในรูปแบบการขายแฟรนไชส์ให้ผู้ประกอบการกว่า 1,500 สาขา ในการขนส่งพัสดุ และเป็นจุดรวบรวมการขนส่งพัสดุภายในประเทศจากบริษัทขนส่งชั้นนำ เช่น แฟลช เอ็กซ์เพรส (Flash), ไปรษณีย์ไทย และ DHL เป็นต้น

สำหรับ Shipsmile มีการเติบโตที่ดี โดย ณ สิ้นปี 63 มีรายได้รวม 617 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 27.6 ล้านบาท จำนวนสาขารวมกว่า 1,500 สาขาและปริมาณการขนส่งรวมกว่า 19.2 ล้านชิ้น ขณะที่ปี 64 วางเป้ารายได้เติบโตแตะ 1,000 ล้านบาท และกำไรสุทธิเติบโตกว่า 70% จากแผนการขยายสาขาที่จะเป็น 3,000 สาขาในปีนี้ และเป็น 5,000 สาขาใน 3 ปีข้างหน้า

พร้อมกันนั้น บริษัทเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในบริษัท เมคเซนด์ เอ็กซ์เพรส จำกัด (Makesend) ซึ่งประกอบธุรกิจการให้บริการขนส่งภายในวันเดียว หรือ Same-daydelivery จำนวน 120,000 หุ้น คิดเป็น 30% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเพิ่มทุน ราคารวมไม่เกิน 9 ล้านบาท ซึ่งบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาบริหารจัดการขนส่งให้มีราคาที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

นายทิพย์ กล่าวว่า จากการเข้าลงทุน 2 บริษัทดังกล่าวข้างต้นคาดว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จได้ภายในเดือนมี.ค.นี้

ทั้งนี้ การขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ จะมุ่งเน้นการขยายธุรกิจทั้งจากการเข้าซื้อกิจการ (M&A) และร่วมลงทุน (JV) รวมทั้งการพัฒนาธุรกิจและบริการด้านโลจิสติกส์ใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับพฤติกรรม New Normal ของผู้บริโภค ประกอบด้วย

1. การพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์ภายในประเทศสำหรับกลุ่มลูกค้าอีคอมเมิร์ซที่มีอัตราการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่องแบบมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงของการแพร่ระบาด โดยตั้งเป้าในการพัฒนาโมเดลธุรกิจด้วยการผสานศักยภาพธุรกิจเดิมที่มีร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ

2. ธุรกิจการให้บริการ E-commerce enabler ซึ่งเป็นบริการด้าน Fulfillment ครบวงจรที่จะเป็นตัวช่วยในการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านทาง Digital platform และ Social platform ให้กับกลุ่มลูกค้าที่แต่เดิมเคยจำหน่ายสินค้าผ่านเฉพาะช่องทาง Offline รวมทั้งการช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับกลุ่มลูกค้าที่จำหน่ายสินค้าผ่านช่องทาง online อยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

3. การพัฒนาระบบการขนส่งสินค้าทางบกผ่านระบบรางภายในประเทศ ที่บริษัทฯ มองว่ายังมีช่องว่างในตลาดที่จะสามารถพัฒนาระบบการขนส่งที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้า และสามารถพัฒนาไปสู่การขนส่งสินค้าระบบรางระหว่างประเทศแบบ Cross border คาดชัดเจนในไตรมาส 2/64

4. การให้บริการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (Specialized logistics) โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัท Cool Chain Logistics ในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ กับพันธมิตรทางธุรกิจต่างชาติ เพื่อรองรับหน่วยธุรกิจใหม่ที่จะให้บริการขนส่งสินค้าประเภทยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งจากกรณีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้เกิดโอกาสทางธุรกิจในด้านโลจิสติกส์โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขนส่งวัคซีน ชุดทดสอบเชื้อ และกลุ่มยาเย็นที่ต้องมีการควบคุมอุณหภูมิระหว่างการขนส่งเพื่อรักษาประสิทธิภาพของสินค้า

นายทิพย์ ยังเปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจของ III ในปี 64 ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากการขยายธุรกิจทั้ง 4 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศ ซึ่งบริษัทยังคงมุ่งเน้นการให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศในรูปแบบของ Cargo Flight โดยจะขยายเครือข่ายการให้บริการผ่านสายการบินพันธมิตรที่มีอยู่ ทั้ง Teleport และกลุ่ม Around เพื่อให้ครอบคลุมเส้นทางการบินที่สำคัญในระดับภูมิภาคมากยิ่งขึ้น

กลุ่มธุรกิจการขนส่งสินค้าทางทะเลและทางบก บริษัทร่วมลงทุนในสายการเดินเรือ CK Line ได้มีการศึกษาเส้นทางใหม่ เพื่อขยายการให้บริการใน North Asia โดยมีแผนขยายเส้นทางผ่าน ฮ่องกง ปูซานของเกาหลีใต้ จีน และส่งสินค้าต่อไปที่ญี่ปุ่นและจีนตอนเหนือ คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในช่วงปลายไตรมาสที่ 1/64

กลุ่มธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการให้บริการแบบครบวงจร ทั้งการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ การให้บริการคลังสินค้าและการกระจายสินค้าภายในประเทศ โดยจะโฟกัสลูกค้าหลักสองกลุ่ม คือ กลุ่มอาหาร ยาและเวชภัณฑ์ สุขภาพและความงาม, กลุ่มลูกค้าอีคอมเมิร์ซ ในส่วนของการให้บริการด้านคลังสินค้าและโลจิสติกส์ มีแผนในการเพิ่มอัตราการใช้ Fulfillment station มีการพัฒนาศักยภาพในการบริการแบบ 24/7 เสริมประสิทธิภาพด้วยการพัฒนา API ในการเชื่อมต่อสารสนเทศ รวมทั้งพัฒนาพื้นที่จัดเก็บแบบควบคุมอุณหภูมิรองรับการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ

กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์สำหรับสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์ บริษัทฯ จะเพิ่มอัตราการใช้พื้นที่จัดเก็บและการขยายพื้นที่คลังสินค้าอันตราย 2,000-2,500 ตรม. ในโซนบางนา บางปะกง และ/หรือลาดกระบัง มีการพัฒนาบริการโลจิสติกส์แบบควบคุมอุณหภูมิเพื่อรองรับกลุ่มยาและวัคซีนในส่วนของธุรกิจบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์ ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่รองรับลูกค้าภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ เพิ่มระบบการขายช่องทาง online และเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ และพัฒนาศูนย์แบ่งบรรจุสินค้าอันตราย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ