นายทัตสึยะ โคโนชิตะ ประธานกรรมการบริหาร บล.ยูไนเต็ด (US) กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทมีความร่วมมือกับบริษัทหลักทรัพย์จากญี่ปู่นเพิ่มขึ้น ทั้งในด้านการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ และด้านวาณิชธนกิจ(IB) ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มสัดส่วนลูกค้าต่างประเทศให้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมีอยู่ 5-6% โดยลูกค้าหลัก 94-95% เป็นรายย่อย ในวันพรุ่งนี้ US จะเริ่มส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ของนักลงทุนญี่ปุ่นผ่านระบบรองรับคำสั่งซื้อขายตรงของผู้ลงทุนสถาบัน (Direct Market Access: DMA)ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เป็นรายแรก หลังจากที่ได้ร่วมมือกับทาง United World Securities ของญี่ปุ่นที่มีฐานลูกค้ากว่า 4.9 หมื่นราย พร้อมกันนั้น ยังมีความร่วมมือด้าน IB กับ Shinko จากญี่ปุ่น โดยจะเน้นการทำดีล M&A ของผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่ต้องการเข้ามาร่วมทุนกับธุรกิจของไทย นายทัตสึยะ กล่าวว่า หลังจากกลุ่มเอเชีย พาร์ทเนอร์ชิป ฟันด์ (APF) ซึ่งเป็นกองทุนส่วนบุคคลของญี่ปุ่น เข้ามาถือหุ้นใหญ่ใน US ช่วยให้บริษัทมีต้นทุนลดลง และตั้งแต่ต้นปี 50 จนถึงขณะนี้บริษัทมีรายได้จากการทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับ APF ในการเข้ามาลงทุนในประเทศแล้วกว่า 10 ล้านบาท