รายงานการซื้อขายตลาดอนุพันธ์(TFEX)วันนี้ มีการซื้อขายรวม 23,893 สัญญา เป็น SET50 Index Futures จำนวน 14,166 สัญญา โดยสัญญา S50Z09 มีปริมาณการซื้อขาย 12,481 สัญญา, สัญญา S50H10 มีปริมาณการซื้อขาย 1,439 สัญญา, สัญญา S50M10 มีปริมาณการซื้อขาย 214 สัญญา และสัญญา S50U10 มีปริมาณการซื้อขาย 32 สัญญา
ส่วน Single Stock Futures มี 1,897 สัญญา ADVANC Futures มีปริมาณการซื้อขาย 44 สัญญา, สัญญา BANPU Futures มีปริมาณการซื้อขาย 2 สัญญา, สัญญา BAY Futures มีปริมาณการซื้อขาย 40 สัญญา, สัญญา ITD Futures มี ปริมาณการซื้อขาย 146 สัญญา,สัญญา KBANK Futures มีปริมาณการซื้อขาย 2 สัญญา, สัญญา KTB Futures มีปริมาณการซื้อ ขาย 727 สัญญา, สัญญา LH Futures มีปริมาณการซื้อขาย 137 สัญญา,
สัญญา PTT Futures มีปริมาณการซื้อขาย 36 สัญญา, สัญญา PTTEP Futures มีปริมาณการซื้อขาย 212 สัญญา, สัญญา QH Futures มีปริมาณการซื้อขาย 105 สัญญา, สัญญา SCC Futures มีปริมาณการซื้อขาย 4 สัญญา และสัญญา TTA Futures มีปริมาณการซื้อขาย 442 สัญญา
ขณะที่ สัญญา BBL Futures และ สัญญา SCB Futures ไม่มีปริมาณการซื้อขาย
ส่วน Gold Futures มีปริมาณการซื้อขาย 6,301 สัญญา
สำหรับ SET50 Options มีการซื้อขายรวม 1,529 สัญญา แบ่งเป็น คอลออปชั่น จำนวน 850 สัญญา และพุทออปชั่น จำนวน 679 สัญญา
นายกิดาการ สุวรรณธรรมา ผู้อำนวยการฝ่ายตลาดอนุพันธ์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า SET50 Index Futures ได้ปรับตัวขึ้นมามาก เนื่องจากมีการเก็งกำไรผลคดีมาบตาพุด ซึ่งในวันพรุ่งนี้(2 พ.ย.)ศาลปกครองสูงสุดเตรียมวินิจฉัย ว่าจะยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวระงับโครงการลงทุนในมาบตาพุด 76 โครงการหรือไม่ ประกอบกับ มีการยกเลิกบังคับใช้พ.ร.บ. ความมั่นคงฯ ในพื้นที่กรุงเทพฯ รวมทั้ง ปัจจัยตลาดต่างประเทศหนุน แต่น้ำหนักปัจจัยในประเทศมีมากกว่า
แนวโน้มตลาดหุ้นในวันพรุ่งนี้ขึ้นอยู่กับผลการตัดสินเรื่องมาบตาพุด และตลาดหุ้นต่างประเทศ แนะนำให้เปิดสถานะ long ให้แนวต้านไว้ที่ 513 จุด และ แนวรับที่ 497 จุด
สำหรับ Gold Futures แนะนำให้ถือสถานะ long แต่ไม่แนะนำให้เปิดสถานะ long แม้ว่าราคาทองคำจะกลับมา เป็นขาขึ้น โดยให้แนวต้านไว้ที่ 18,960 บาท และแนวรับที่ 18,690 บาท
ดัชนีอ้างอิงวันนี้ SET50 Index อยู่ที่ 500.50 จุด บวก 16.96 จุด (+3.51%)