ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงต่ำกว่าระดับ 5,000 จุดเมื่อคืนนี้ (25 พ.ค.) เนื่องจากความกังวลที่ว่าวิกฤหนี้สินในยุโรปและมาตรการลดงบประมาณการใช้จ่าย อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในยุโรปด้วย โดยหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงอย่างหนัก ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดิ่งลงตามราคาโลหะพื้นฐานในตลาดโลก
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 128.93 จุด หรือ 2.54% ปิดที่ 4,940.68 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,898.49 - 5,069.61 จุด
นักวิเคราะห์จากไอจี มาร์เก็ตส์กล่าวว่า บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนผันผวนอย่างหนักเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินในยุโรปที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งความกังวลดังกล่าวได้ฉุดดัชนี FTSE 100 ปิดร่วงลงหลุดจากระดับ 5,000 จุด
กระแสความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพในระบบการเงินยุโรปเริ่มรุนแรงขึ้นอีกครั้ง เมื่อมีข่าวว่าธนาคารกลางสเปนเข้าเทคโอเวอร์ธนาคาร Cajasur ซึ่งเป็นธนาคารออมทรัพย์แห่งหนึ่งของสเปน ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้เกิดความกังวลว่าปัญหาในระบบการเงินยุโรปกำลังขยายตัวในวงกว้าง แม้รัฐบาลสเปนยืนยันว่า สเปนมีเม็ดเงินอยู่ในระบบมากเพียงพอก็ตาม
นอกจากนี้ นักลงทุนกังวลว่ามาตรการลดงบประมาณการใช้จ่ายของรัฐบาลอังกฤษอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมภายในประเทศ โดยนายจอร์จ ออสบอร์น รมว.คลังอังกฤษ ได้เปิดเผยรายละเอียดของแผนปรับลดงบประมาณรายจ่าย 6.2 พันล้านปอนด์ (8.92 พันล้านดอลลาร์) และกล่าวเตือนว่างบประมาณฉุกเฉินที่จะออกมาในเดือนหน้าอาจถูกปรับลดลงอย่างมาก ขณะที่นายเดวิด ลอส์ รมช.คลังอังกฤษ กล่าวว่าการปรับลดงบประมาณในครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความตื่นตัวในหน่วยงานภาครัฐ
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงตามราคาโลหะพื้นฐานในตลาดโลก รวมถึงราคาแร่ทองแดงและนิกเกิ้ล โดยหุ้นยูเรเชียน เนเชอรัล รีซอร์สเซส ปิดร่วง 3.5% หุ้นอันโตฟากัสตาปิดร่วง 4.5% หุ้นเวแดนตา รีซอร์สเซส ปิดร่วง 5.2% หุ้นริโอ ตินโต ปิดร่วง 6.2% และหุ้นเอ็กซ์สตราตา ดิ่งลง 7.1%
ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบ โดยบีพีปิดร่วง 1.2% หุ้นบีจี กรุ๊ป ปิด 1.6% และรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปิดร่วง 2.0%