PTTEP ทำแผน 5 ปี (63-67) ลงทุนรวม 24,619 ล้านเหรียญฯ ปริมาณขายโตเฉลี่ยปีละ 6% เป็น 4.67 แสนบาร์เรล/วันในปี 67

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 16, 2019 13:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) หรือ ปตท.สผ.แจ้งแผนการดำเนินงาน 5 ปี (ปี 63-67) มีเงินลงทุนรวม ทั้งสิ้น 24,619 ล้านเหรียญสหรัฐ และวางเป้าปริมาณขายเติบโตเฉลี่ยปีละ 6% มาที่ระดับ 4.67 แสนบาร์เรล/วันในปี 67 โดยแผน ประจำปี 63 จะอยู่ภายใต้กลยุทธ์การดำเนินการ (Execute) และกลยุทธ์การขยายธุรกิจ (Expand) มีเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 4,613 ล้าน เหรียญสหรัฐ แบ่งเป็นรายจ่ายลงทุน (Capital Expenditure) 2,647 ล้านเหรียญสหรํฐ และรายจ่ายดำเนินงาน (Operating Expenditure) 1,966 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีเป้าหมายปริมาณขายเฉลี่ยในปี 63 ที่ 3.88 แสนบาร์เรล/วัน

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 63 มุ่งเน้นกลยุทธ์ด้าน Execution โดยให้ความสาคัญกับแผนงานหลัก ดังนี้ 1. การรักษา ปริมาณการผลิตจากโครงการผลิตหลักที่สำคัญ ได้แก่ โครงการเอส 1 โครงการบงกช โครงการอาทิตย์ โครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย- มาเลเซีย และโครงการซอติก้า รวมถึงการรักษาปริมาณการผลิตและบริหารจัดการโครงการใหม่ที่ได้มา ให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ได้แก่ โครงการ Malaysia โครงการ Partex รวมถึงโครงการ G1/61 (แหล่งเอราวัณ) และโครงการ G2/61 (แหล่งบงกช) โดย ได้จัดสรรรายจ่ายลงทุนจำนวน 1,941 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าว

2. การเพิ่มปริมาณการผลิตในอนาคต โดยมุ่งเน้นและผลักดัน 3 โครงการหลักที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา ได้แก่ โครงการ มาเลเซีย-แปลงเอช โครงการโมซัมบิก แอเรีย วัน และ โครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ ให้สามารถเริ่มการผลิตได้ตามแผน นอกจากนี้บริษัทยังให้ความสำคัญในการเร่ง การพัฒนาโครงการมาเลเซีย ซาราวัก เอสเค 410 บี ซึ่งประสบความสำเร็จในการเจาะ สำรวจในปีที่ผ่านมา เพื่อให้สามารถเข้าสู่ขั้นตอนของการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (Final Investment Decision) โดยบริษัทได้จัด สรรรายจ่ายลงทุนในส่วนนี้เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 425 ล้านเหรียญสหรัฐ

3. การเร่งกิจกรรมการสำรวจเพื่อค้นหาทรัพยากร (Contingent Resources) เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว โดย ได้จัดสรรรายจ่ายลงทุนจานวน 281 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายจ่ายในการเจาะหลุมสำรวจและประเมินผล สำหรับโครงการ สำรวจในมาเลเซีย และเมียนมา

สำหรับประมาณการรายจ่ายสำหรับแผนการลงทุน 5 ปี (ปี 63-67) เป็นดังนี้

หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐ

                                          ปี 2563   ปี 2564    ปี 2565  ปี 2566   ปี 2567    ปี 2563-2567

รายจ่ายลงทุน (Capital Expenditure)           2,647    3,011    3,342    2,873    2,366      14,239
รายจ่ายดำเนินงาน (Operating Expenditure)     1,966    2,000    1,995    2,462    1,957      10,380
รายจ่ายรวมทั้งสิ้น (Total Expenditure)          4,613    5,011    5,337    5,335    4,323      24,619

ทั้งนี้ จากแผนงานดังกล่าว ส่งผลให้ ปตท.สผ. คาดการณ์ตัวเลขประมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ยต่อวันจากโครงการ ปัจจุบัน ระหว่างปี 63-67 โดยมีอัตราการเติบโตของปริมาณการขายโดยเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น (Compounding Annual Growth Rate : CAGR) ในช่วง 5 ปี ประมาณ 6% ดังรายละเอียดต่อไปนี้

หน่วย: พันบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน

                                              ปี 2563   ปี 2564   ปี 2565  ปี 2566   ปี 2567
ปริมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ย                        388      403       450     464     467

นอกจากนี้ ปตท.สผ. ยังให้ความสำคัญกับการปรับตัวเพื่อพร้อมรับมือกับสภาพ การดำเนินธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่ เปลี่ยนแปลงไป ผ่านการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ และการศึกษาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ อาทิ การลงทุนในธุรกิจ Gas to Power ในเมียนมาเพื่อต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแหล่งก๊าซธรรมชาติที่บริษัทมีการลงทุนอยู่แล้ว รวมถึงการลงทุนในธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ผ่านบริษัท AI & Robotics Venture (ARV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ปตท.สผ. เป็นต้น ซึ่งในปี 63 จะพัฒนาหุ่นยนต์สำหรับการใช้งานจริง ได้แก่ หุ่นยนต์อัตโนมัติใต้น้ำตรวจสอบท่อส่งปิโตรเลียมและโครงสร้างใต้น้ำ (Inspection- class Autonomous Underwater Vehicle: IAUV) หุ่นยนต์ซ่อมบำรุงท่อใต้น้ำ (Subsea Flowline Control and Repair Robot: SFCR) และหุ่นยนต์ตรวจสอบภายในท่อ (In-pipe Inspection Robot) รวมทั้ง ยังมีแผนพัฒนาอีกกว่า 30 โครงการให้ บริการเชิงพาณิชย์ในปีถัด ๆ ไปอีกด้วย

นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.สผ. กล่าวว่า จากงบประมาณดังกล่าว ปตท. สผ. คาดว่าในปี 63 จะสามารถเพิ่มปริมาณการขายปิโตรเลียมได้ประมาณ 11% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้ ส่วนปริมาณการขายเฉลี่ยใน ช่วง 5 ปีข้างหน้าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้งหมดนี้ ถือเป็นความสำเร็จจากการดำเนินการตามกลยุทธ์ Expand ทั้ง การชนะการประมูล และการเข้าซื้อกิจการในพื้นที่ยุทธศาสตร์การลงทุนในประเทศไทย ประเทศมาเลเซีย และในตะวันออกกลาง

"ในปี 63 จะมุ่งเน้นการดำเนินการตามกลยุทธ์ Execute โครงการหลักต่าง ๆ เพื่อรักษาปริมาณการผลิต และเร่งการ พัฒนาโครงการที่สำคัญให้สามารถเริ่มการผลิตได้ตามแผนเพื่อเพิ่มปริมาณการผลิต รวมทั้งเร่งกิจกรรมการสำรวจเพื่อค้นหาปิโตรเลียมเพิ่ม เติม เพื่อสร้างการเติบโตระยะยาว"นายพงศธร กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ