ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนที่ผ่านมา (27 ต.ค.) สัญญาธัญพืชดีดกลับมาเพิ่มขึ้นหลังอ่อนแรงลงในช่วงก่อนหน้านี้ เพราะสินค้าเกษตรกรได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของเงินสกุลดอลลาร์ และการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดอื่นๆ นอกจากนี้ นักเก็งกำไรบางรายยังกลับเข้ามาช้อนซื้อหลังจากที่ราคาได้ปรับตัวลงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ราคาเพิ่มสูงขึ้น
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 14.25 เซนต์ หรือ 2.2% ปิดที่ 6.515 ดอลลาร์/บุชเชล ในขณะที่ สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 24.5 เซนต์ หรือ 4% ปิดที่ 6.44 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 24.25 เซนต์ หรือ 2% ปิดที่ 12.44 ดอลลาร์/บุชเชล
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ถึงแม้ว่าข้อมูลการส่งออกจะสร้างความผิดให้กับนักลงทุน แต่ตลาดก็ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งหลังจากที่เงินสกุลดอลลาร์ได้อ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพราะปกติแล้วการอ่อนค่าของเงินสกุลดอลลาร์จะเป็นปัจจัยหนุนต่อสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ตลาดธัญพืช เป็นต้น
เงินสกุลยูโรได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์ ภายหลังจากที่ผู้นำยุโรปได้บรรลุข้อตกลงที่มีจุดประสงค์ในการแก้ปัญหาหนี้สินของภูมิภาค ซึ่งรวมไปถึงข้อตกลงในการยินยอมที่จะปรับลดมูลค่าพันธบัตรกรีซลง 50% โดยสมัครใจ และการขยายวงเงินกองทุนให้ความช่วยเหลือเพื่อเพิ่มทุนให้กับธนาคารยุโรป
ข้อตกลงดังกล่าวส่งผลให้ตลาดโลหะและตลาดน้ำมันต่างก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นในการซื้อขายระหว่างวัน ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติมต่อตลาดธัญพืช นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปรับตัวลงอย่างรุนแรงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งนักลงทุนบางรายมองว่าได้สิ้นสุดลงแล้ว และดึงดูดให้นักเก็งกำไรกลับเข้ามาช้อนซื้อ ณ ราคาที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งเพิ่มบรรกาศที่เป็นบวกให้กับตลาด
ทั้งนี้ ตลาดได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อวานนี้ ถึงแม้ว่ากระทรวงเกษตรของสหรัฐจะรายงานตัวเลขส่งออกประจำสัปดาห์ ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 20 ต.ค. ที่ต่ำกว่าคาดการณ์ โดยระบุว่า ยอดส่งออกข้าวโพด ข้าวสาลี และ ถั่วเหลือง อยู่ที่ 361,300 ตัน 361,300 ตัน และ 254,600 ตัน ตามลำดับ สำนักข่าวซินหัวรายงาน