ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนที่ผ่านมา (7 พ.ย.) สัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองปรับตัวลดลง ท่ามกลางความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของยุโรป เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าวิกฤติหนี้สินของภูมิภาคอาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวและอุปทานด้านต่างๆ หดตัวลงด้วย แต่อย่างไรก็ดี ข้าวสาลีได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า สหรัฐอาจจะปรับลดยอดสต๊อกลงในการเปิดเผยรายงานครั้งต่อไป
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.5 เซนต์ หรือ 0.38% ปิดที่ 6.5325 ดอลลาร์/บุชเชล ในขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 6.3875 ดอลลาร์/บุชเชล และ สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 19.25 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 12.0175 ดอลลาร์/บุชเชล
นักวิเคราะห์ในตลาดกล่าวว่า นักเก็งกำไรกำลังเทขายสัญญาอันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤติหนี้สินยุโรป หลังจากที่นายจอร์จ ปาปันเดรอู นายกรัฐมนตรีกรีซประกาศลาออกจากตำแหน่ง เพื่อเปิดโอกาสให้มีการจัดตั้งรัฐบาลผสม ในขณะที่นายซิลวิโอ เบอร์ลุสโคนี นายกรัฐมนตรีก็ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันให้ลาออกจากตำแหน่งท่ามกลางต้นทุนเงินกู้ที่เพิ่มสูงขึ้นของรัฐบาล
เงินสกุลดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลยูโร ซึ่งเป็นปัจจัยลบต่อราคาข้าวโพดและถั่วเหลือง โดยดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากวันก่อน 0.01 จุดเมื่อวานนี้ มาซื้อขายที่ประมาณ 77 จุด
อย่างไรก็ตาม สัญญษข้าวสาลีได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นในการซื้อขายระหว่างวัน เนื่องจากเทรดเดอร์คาดว่ากระทรวงเกษตรของหรัฐอาจจะปรับยอดสต๊อกข้าวสาลีลง 20 ล้านบุชเชล ในการรายงานอุปสงค์-อุปทานในวันพรุ่งนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน