สัญญาสินค้าเกษตรล่วงหน้าในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ต้าเหลียนและเจิ้งโจวมีทั้งที่ปิดในแดนบวกและลบ หลังจากที่เคลื่อนตัวในกรอบแคบๆ เนื่องจากนักลงทุนรอดูทิศทางจากสหรัฐถึงความเป็นไปได้ที่อาจจะมีการประกาศมาตรการใหม่ที่ช่วยบรรเทาสภาพคล่อง
สัญญาข้าวโพดล่วงหน้าในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ต้าเหลียนมีการซื้อขายคึกคักสุด โดยมีแรงซื้อจากรัฐบาลเข้ามาต่อเนื่องและดันราคาสปอตในพื้นที่เพาะปลูกที่สำคัญๆ โดยสัญญาส่งมอบเดือนก.ย.ปิดพุ่ง 0.82% แตะที่ 2,445 หยวนต่อตัน
ปัจจุบัน ราคาข้าวโพดที่ท่าเรือในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยืนอยู่ที่ระดับ 2,450-2,460 หยวนต่อตัน อย่างไรก็ตาม บริษัทแปรรูปจำนวนมากกำลังประสบปัญหาในการจัดหาข้าวโพด เนื่องอุปทานที่ลดลง
ส่วนน้ำมันปรุงอาหารปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน เนื่องจากราคาน้ำมันในต่างประเทศดีดตัวขึ้น โดยสัญญาน้ำมันถั่วเหลืองเดือนก.ย.ในตลาดต้าเหลียนปรับตัวขึ้น 0.19% ปิดที่ 9,526 หยวนต่อตัน อย่างไรก็ดี สัญญาถั่วเหลืองเดือนก.ย.ปิดอ่อนตัวลง 0.16% แตะที่ 4,482 หยวนต่อตัน
การนำเข้าถั่วเหลืองของจีนในเดือนก.พ. ร่วงลง 17% จากเดือนม.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอ และถือเป็นปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อสัญญาถั่วเหลืองในตลาดต้าเหลียน
สำหรับสัญญาฝ้ายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เจิ้งโจวนั้น ไม่สดใสเมื่อเทียบกับสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรอื่นๆ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการตัดสินใจยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกฝ้ายของอินเดีย โดยสัญญาเดือนก.ย.ปิดอ่อนตัวลง 0.78% แตะที่ 21,560 หยวนต่อตัน
อินเดีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตฝ้ายรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก และยังเป็นแหล่งนำเข้าฝ้ายที่สำคัญของจีน ได้ตัดสินใจยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกฝ้ายที่เพิ่งมีการประกาศไปเมื่อวันที่ 5 มี.ค. ซึ่งคาดว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดของอินเดียจะช่วยเพิ่มแหล่งอุปทานฝ้ายให้กับจีน
เมื่อเร็วๆนี้ สัญญาฝ้ายในตลาดเจิ้งโจวเคลื่อนตัวอย่างผันผวน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการส่งออกของอินเดีย
สำหรับสัญญาน้ำตาลเดือนก.ย.ในตลาดเจิ้งโจวนั้น ขยับลง 0.03% ปิดที่ 6,616 หยวนต่อตัน
นักวิเคราะห์คาดว่า สัญญาน้ำตาลในตลาดเจิ้งโจวจะเคลื่อนไหวในกรอบที่กว้างขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นและฤดูบริโภคที่ซบเซา อย่างไรก็ดี นโยบายสำรองน้ำตาลของรัฐบาลได้กำหนดราคาน้ำตาลขั้นต่ำไว้ที่ 6,550 หยวนต่อตัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน