สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนเม.ย.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิก ดีดตัวขึ้นสูงสุด 53 เซนต์ แตะที่ 105.64 ดอลลาร์/บาร์เรล และเคลื่อนไหวที่ระดับ 105.26 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 10:39 น.ตามเวลาลอนดอน ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าอุปสงค์เชื้อเพลิงจะปรับตัวสูงขึ้นจากอานิสงส์ของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศที่มีปริมาณการใช้น้ำมันดิบมากที่สุดในโลก
ในวันนี้ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ ก่อนที่ทางการสหรัฐจะรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคและผลผลิตอุตสาหกรรมในคืนนี้ตามเวลาในไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าข้อมูลเศรษฐกิจจะปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งสองรายการ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังดีดตัวหลังจากสหรัฐและอังกฤษประกาศว่า ทั้งสองฝ่ายยังไม่บรรลุข้อตกลงเรื่องการระบายน้ำมันออกจากคลังยุทธภัณฑ์สำรอง (Strategic Petroleum Reserve - SPR) เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาพลังงาน หลังจากที่ชาติตะวันตกคว่ำบาตรอิหร่าน
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ และนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอนของอังกฤษ ได้หารือกันเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าววานนี้ และในเบื้องต้นนั้นมีรายงานว่า ประธานาธิบดีโอบามาและนายกรัฐมนตรีคาเมรอนเห็นพ้องว่า จะระบายน้ำมันออกจากคลัง SPR ของสหรัฐ ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดสัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงกว่า 1 ดอลลาร์ในระหว่างวัน
ทั้งนี้ ปัจจุบันสหรัฐมีน้ำมันในคลัง SPR อยู่ปริมาณ 697 ล้านบาร์เรล ซึ่งรัฐบาลจะระบายน้ำมันออกจากคลังดังกล่าวก็ต่อเมื่อเกิดภาวะอุปทานตึงตัวที่เป็นผลมาจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ การโจมตีของผู้ก่อการร้าย และสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมือง