สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนส.ค. ร่วงลง 1.16 ดอลลาร์ แตะที่ 86.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกช่วงเช้าวันนี้ หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าภาคการผลิตในยุโรปชะลอตัวลง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่าความต้องการพลังงานอาจจะหดตัวลงด้วย
Markit/CIPS เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของอังกฤษเดือนมิ.ย. ปรับตัวลงสู่ระดับ 51.3 จาก 53.3 ในเดือนพ.ค. ซึ่งการที่ภาคบริการขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงน่าจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สร้างความวิตกแก่เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของอังกฤษ
ขณะเดียวกันดัชนี PMI ภาคบริการของเยอรมนี ร่วงลงแตะ 49.9 ในเดือนมิ.ย. จาก 51.8 ในเดือนพ.ค. ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมภาคบริการประสบกับภาวะชะงักงัน หลังจากที่มีการขยายตัวขึ้นในเดือนก่อนหน้า โดยตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัว
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันของสหรัฐประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 29 มิ.ย. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจขยับลง 0.1%