ราคาน้ำมันตลาดสิงคโปร์ปรับตัวลดลงในวันนี้ (14 มี.ค.) หลังจากที่ได้ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 111.00 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อคืนนี้ แต่นักวิเคราะห์กล่าวว่า ราคาน้ำมันจะยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างหนัก และความวิตกกังวลเรื่องอุปทานน้ำมัน สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนเม.ย.และได้มีการซื้อขายที่ตลาดสิงคโปร์ ปรับตัวลง 46 เซนต์ แตะระดับ 109.87 ดอลลาร์/บาร์เรล จากที่ได้พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 110.33 ดอลลาร์/บาร์เรลในตลาดนิวยอร์ก ในขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนเม.ย.แตะระดับที่ 107.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากที่ได้พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 107.88 ดอลลาร์ "ราคาน้ำมันขยับลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่คาดว่าจะยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในระดับสูงต่อไป" เดวิด มัวร์ นักยุทธศาสตร์สินค้าโภคภัณฑ์จากธนาคารคอมมอนเวลธ์ แบงค์ ออฟ ออสเตรเลียในซิดนีย์กล่าว มัวร์กล่าวว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นในขณะนี้ ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกพุ่งสูงขึ้น เพราะน้ำมันดิบซื้อขายด้วยเงินสกุลดอลลาร์ ส่งผลให้บรรดาผู้ค้าน้ำมันที่ถือสกุลเงินที่แข็งแกร่งกว่าสามารถซื้อสัญญาน้ำมันได้ในราคาที่ถูกลง เมื่อวานนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับเงินสกุลยูโร และลดลงต่ำกว่าระดับ 100 เยนเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี อันเป็นผลมาจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ซบเซาและความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดสินเชื่อ เดฟ เอิร์นสเบอร์เกอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายน้ำมันเอเชียจาก แพลตส์ ผู้ให้บริการข้อมูลพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ชั้นนำของโลกคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันอาจลดลงก่อนถึงวันหยุดช่วงเทศกาลอีสเตอร์ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า และคาดว่าราคาน้ำมันจะสามารถพุ่งขึ้นเหนือระดับ 111.00 ดอลลาร์ได้ เจ้าชายซาอุด อัล-ไฟซัล รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศซาอุดิ อาระเบียกล่าวว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นเป็นผลมาจากแรงซื้อเก็งกำไร