ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 500 จุด หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ประกาศกรอบข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐและสหราชอาณาจักร
ณ เวลา 23.26 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 41,691.74 จุด บวก 577.77 จุด หรือ 1.41%
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ทำการแถลงข่าวที่ห้องทำงานรูปไข่ที่ทำเนียบขาวในวันนี้ โดยประกาศว่า สหรัฐได้บรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหราชอาณาจักรแล้ว
ข้อตกลงดังกล่าวนับเป็นข้อตกลงฉบับแรกที่สหรัฐทำกับประเทศคู่ค้า นับตั้งแต่ที่ปธน.ทรัมป์ประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้กับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกในเดือนเม.ย.
อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของข้อตกลงในการแถลงข่าวดังกล่าว รวมทั้งไม่มีการลงนามในข้อตกลงแต่อย่างใด
"เรากำลังร่างรายละเอียดขั้นสุดท้ายของข้อตกลง ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า" ปธน.ทรัมป์กล่าว
นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้สหรัฐสามารถส่งออกสินค้ามูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์เข้าสู่ตลาดของสหราชอาณาจักร และสหราชอาณาจักรจะปรับลดหรือขจัดอุปสรรคที่ไม่ใช่มาตรการทางภาษีศุลกากรซึ่งเคยกีดกันสินค้าจากสหรัฐอย่างไม่เป็นธรรม
ด้านนายเคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จัดการแถลงข่าวเช่นกัน โดยระบุว่า อังกฤษได้บรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐแล้ว
ทั้งนี้ นายสตาร์เมอร์กล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้สหรัฐยกเลิกอัตราภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากเหล็กและอะลูมิเนียมที่มีการนำเข้าจากอังกฤษ และสหรัฐจะปรับลดอัตราภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากรถยนต์ของอังกฤษจำนวน 100,000 คันต่อปี โดยอัตราภาษีจะลดลงสู่ระดับ 10% จากเดิมที่ระดับ 27.5%
นอกจากนี้ นายสตาร์เมอร์กล่าวว่า ในทางกลับกัน อังกฤษจะอนุญาตให้สหรัฐส่งออกเนื้อวัวจำนวน 13,000 ตันโดยปลอดภาษีเข้าสู่อังกฤษ รวมทั้งอังกฤษจะระงับการเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อเอทานอลที่มีการนำเข้าจากสหรัฐ