ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 135.60 จุด รับคาดการณ์เฟดหั่นดบ.เดือนหน้า

ข่าวต่างประเทศ Wednesday August 27, 2025 06:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (26 ส.ค.) เนื่องจากแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในเดือนหน้าเป็นปัจจัยพยุงตลาด หลังจากที่ดัชนีปรับตัวลงในระหว่างวันจากข่าวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศปลดลิซา คุก ออกจากตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการเฟด นอกจากนี้ ตลาดโดยรวมยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) และหุ้นอิไล ลิลลี (Eli Lilly)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 45,418.07 จุด เพิ่มขึ้น 135.60 จุด หรือ +0.30%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,465.94 จุด เพิ่มขึ้น 26.62 จุด หรือ +0.41% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,544.27 จุด เพิ่มขึ้น 94.98 จุด หรือ +0.44%

ในช่วงแรก ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของเฟด หลังจากปธน.ทรัมป์ประกาศปลดลิซา คุก ออกจากตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการเฟด หลังถูกกล่าวหาว่ากระทำการฉ้อโกงด้วยการให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการกู้เงินเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ขณะที่แอ็บบี โลเวลล์ ทนายความของลิซา คุก ประกาศว่าจะยื่นฟ้องต่อศาล โดยระบุว่าปธน.ทรัมป์ไม่มีอำนาจสั่งปลดผู้ว่าการเฟด

อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. โดยแม้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงเป็นปัจจัยที่น่ากังวล แต่นักลงทุนและนักวิเคราะห์จากหลายสำนักซึ่งรวมถึงมอร์แกน สแตนลีย์ ต่างก็เชื่อว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. เมื่อพิจารณาจากการที่เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินในระหว่างการประชุมที่เมืองแจ็กสันโฮล โดยระบุถึงความอ่อนแอของตลาดแรงงาน

หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมพุ่งขึ้น 1.03% และหุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้น 0.76% ส่วนหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ปรับตัวลง 0.46% และ 0.32% ตามลำดับ

หุ้นอินวิเดีย ดีดตัวขึ้น 1.08% ก่อนที่บริษัทจะรายงานผลประกอบการหลังตลาดปิดทำการในวันพุธ (27 ส.ค.) โดยนักลงทุนจับตาผลประกอบการของอินวิเดียอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินว่าบริษัทผลิตชิปรายใหญ่แห่งนี้จะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนอย่างไร นอกจากนี้ ผลประกอบการของอินวิเดียยังอาจเป็นตัวกำหนดทิศทางของหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI ในตลาดวอลล์สตรีทอีกด้วย

หุ้นอีไล ลิลลี่ ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่ ทะยานขึ้น 5.85% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลการทดลองยาลดน้ำหนักซึ่งพบว่า ยาของบริษัทสามารถช่วยลดน้ำหนักของผู้ป่วยโรคเบาหวานได้ 10.5%

หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (เอเอ็มดี) พุ่งขึ้น 2% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัท Truist Securities ปรับเพิ่มคำแนะนำการลงทุนในหุ้นเอเอ็มดี เป็น "Buy" จากเดิม "Hold"

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ