ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวแคบ หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตือนว่า ราคาสินทรัพย์ ซึ่งรวมถึงหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ กำลังอยู่ในระดับสูง
ณ เวลา 19.00 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 22 จุด หรือ 0.05% สู่ระดับ 46,659 จุด
ทั้งนี้ ในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อผู้นำภาคธุรกิจที่ Greater Providence Chamber of Commerce (GPCC) เมื่อวานนี้ นายพาวเวลได้รับคำถามที่ว่า เขาและคณะกรรมการเฟดให้ความสำคัญต่อราคาตลาดมากน้อยเพียงใด และมีความอดทนต่อมูลค่าที่สูงขึ้นหรือไม่
นายพาวเวลตอบว่า "เรามองไปที่สถานการณ์ด้านการเงินโดยรวม และเราจะถามตัวเองว่านโยบายของเรากำลังส่งผลต่อสถานการณ์การเงินในแนวทางที่เราพยายามบรรลุหรือไม่ แต่คุณพูดถูก หากดูจากมาตรวัดหลายตัว เช่น ราคาหุ้น กำลังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงทีเดียว"
ในช่วงก่อนการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ราคาหุ้นและสินทรัพย์อื่น ๆ ต่างพุ่งขึ้นอย่างมาก เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นว่าคณะกรรมการ FOMC จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และหลังจากที่ FOMC ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในวันที่ 17 ก.ย. ตลาดหุ้นยังคงพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง
นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นอกจากนี้ ตลาดจับตาแนวโน้มที่สหรัฐเสี่ยงเผชิญภาวะการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์ ในช่วงสิ้นเดือนนี้ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยกเลิกการประชุมกับแกนนำพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรส เพียงไม่กี่วันก่อนที่รัฐบาลสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์ เนื่องจากปธน.ทรัมป์มองว่าการประชุมดังกล่าวจะไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด