ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ (24 ต.ค.) หลังจากซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นประกาศคำมั่นว่าจะดำเนินนโยบายการคลังเชิงรุกเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะที่ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 49,299.65 จุด เพิ่มขึ้น 658.04 จุด หรือ +1.35%
บรรดาโบรกเกอร์ระบุว่า ตลาดได้รับปัจจัยหนุนตั้งแต่ช่วงเปิดทำการ หลังจากหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น ขานรับข่าวที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ จะพบปะหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในวันที่ 30 ต.ค.ที่ประเทศเกาหลีใต้
ตลาดทะยานขึ้นต่อเนื่อง หลังจากนายกฯ ทาคาอิจิกล่าวสุนทรพจน์ โดยให้คำมั่นว่าจะใช้นโยบายการใช้จ่ายภาครัฐ โดยไม่ได้กล่าวถึงเป้าหมายการเกินดุลงบประมาณขั้นต้น (primary balance surplus) ซึ่งเป็นมาตรวัดความแข็งแกร่งทางการคลังที่บ่งชี้ว่ารัฐบาลสามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายได้โดยไม่ต้องออกพันธบัตรใหม่
มาซาฮิโระ อิชิกาวะ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดของบริษัทซูมิโตโม มิตซุย ดีเอส แอสเซต แมเนจเมนต์กล่าวว่า "การที่ไม่กล่าวถึงเป้าหมายการเกินดุลงบประมาณขั้นต้นในสุนทรพจน์ ทำให้เห็นชัดเจนว่าคุณทาคาอิจิจะต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อด้วยการขยายการใช้จ่ายภาครัฐ ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาด"
โบรกเกอร์ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ Intel Corp. ยักษ์ใหญ่ด้านชิปของสหรัฐฯ ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มดังกล่าว โดยบริษัทรายงานผลกำไรเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ไตรมาสสำหรับช่วงเดือนก.ค.-ก.ย.