ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันศุกร์ (24 ต.ค.) ขานรับการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าคาด ซึ่งสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง และตลาดยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนด้วย
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 47,207.12 จุด เพิ่มขึ้น 472.51 จุด หรือ +1.01%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,791.69 จุด เพิ่มขึ้น 53.25 จุด หรือ +0.79% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,204.87 จุด เพิ่มขึ้น 263.07 จุด หรือ +1.15%
ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq เพิ่มขึ้นรายสัปดาห์สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. ส่วนดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.
ข้อมูลจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ยังคงอยู่ในระดับสูงในเดือนก.ย. แต่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ซึ่งช่วยคลายความกังวลว่าภาษีนำเข้าจะส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อ และยืนยันแนวโน้มที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% หลังสิ้นสุดการประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า ข่าวดีเกี่ยวกับเงินเฟ้อจากข้อมูล CPI ที่ชะลอตัวได้เปิดโอกาสให้เฟดปรับลดดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้าและอาจจะลดอีกครั้งในเดือนธ.ค.
การรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีบริษัทในดัชนี S&P500 จำนวน 143 แห่งรายงานผลประกอบการออกมาแล้วตามข้อมูลจาก LSEG โดยมีถึง 87% ของบริษัทที่รายงานกำไรดีกว่าคาด และ 83% ที่รายได้ดีกว่าคาด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า การปรับขึ้นของตลาดหุ้นในปีนี้มีเหตุผลรองรับ และอาจเปิดทางให้ตลาดปรับตัวขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี
นักวิเคราะห์คาดว่า กำไรของบริษัทในดัชนี S&P500 จะเติบโต 10.4% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งถือว่าดีขึ้นจากประมาณการเดิมเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ 8.8%
ในสัปดาห์หน้าจะมีรายงานผลประกอบการจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำหลายแห่ง ได้แก่ Meta Platforms, Microsoft, Alphabet, Amazon.com และ Apple ซึ่งเป็น 5 ใน 7 บริษัทในกลุ่ม "Magnificent Seven" ที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด นอกจากนี้ยังมีบริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่เช่น Caterpillar และ Boeing ที่จะเปิดเผยผลประกอบการเช่นกัน
หุ้น Alphabet พุ่งขึ้น 2.7% หลังจาก Anthropic ขยายข้อตกลงเพื่อใช้ชิปปัญญาประดิษฐ์ของ Google มากถึงหนึ่งล้านตัวในการฝึกระบบแชตบอต Claude
หุ้น Coinbase Global พุ่งขึ้น 9.8% หลังจาก JPMorgan ปรับคำแนะนำลงทุนจาก "neutral" เป็น "overweight"
หุ้น Ford พุ่งขึ้น 12.2% หลังประกาศผลกำไรไตรมาส 3 ดีกว่าคาด ส่วน General Dynamics ก็รายงานผลประกอบการเกินคาดเช่นกัน ส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้น 2.7%
ในทางกลับกัน หุ้น Deckers Outdoor ร่วงลง 15.2% หลังคาดการณ์ยอดขายทั้งปีต่ำกว่าที่ตลาดวอลล์สตรีทคาดไว้ ขณะที่หุ้น Alaska Air ร่วงลง 6.1% หลังบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการทั้งปี