ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าลบ กังวลสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่นตึงเครียด

ข่าวต่างประเทศ Monday November 17, 2025 11:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (17 พ.ย.) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างจีนกับญี่ปุ่น หลังจากรัฐบาลจีนออกประกาศเตือนพลเมืองให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นและศึกษาต่อในญี่ปุ่น

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 50,011.53 จุด ลดลง 365 จุด หรือ -0.72%, ดัชนีฮั่งเส็งฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 26,359.22 จุด ลดลง 213.24 จุด หรือ -0.80% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,973.31 จุด ลดลง 17.18 จุด หรือ -0.43%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ดีดตัวขึ้น 1.67% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง 0.2%

หุ้นบริษัทญี่ปุ่นที่ต้องพึ่งพาการใช้จ่ายจากลูกค้าชาวจีนร่วงลงเช้านี้ โดยหุ้นบริษัทเครื่องสำอางรายใหญ่อย่าง Shiseido ร่วงลง11% หุ้น Isetan Mitsukoshi Holdings ซึ่งเป็นผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า Isetan ดิ่งลงกว่า 10% ขณะที่หุ้น Oriental Land ซึ่งเป็นผู้ประกอบการ Tokyo Disney Resort ร่วงลง 4.74% และหุ้นสายการบิน ANA Holdings ร่วงลง 3.48%

หุ้นเหล่านี้ร่วงลง หลังจากทางการจีนได้ออกประกาศเตือนนักศึกษาที่วางแผนจะไปศึกษาในประเทศญี่ปุ่นให้ตระหนักถึงความเสี่ยงที่พลเมืองจีนอาจจะต้องเผชิญเมื่ออยู่ในประเทศญี่ปุ่น โดยคำเตือนดังกล่าวมีขึ้น หลังจากซานาเอะ ทาคาอิชิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้แสดงความเห็นว่า ในความขัดแย้งใด ๆ เกี่ยวกับไต้หวันนั้น หากมีการใช้กำลังทางทหาร ก็อาจถูกพิจารณาว่าเป็น "สถานการณ์ที่คุกคามการอยู่รอด"

กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า คำพูดของทาคาอิจิถือเป็นการยั่วยุ โดยหลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า "การกระทำเหล่านี้ของญี่ปุ่นได้ก่อให้เกิดคำถามและความกังวลอย่างมากในหมู่ประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียและประชาคมระหว่างประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจญี่ปุ่นในช่วงเช้านี้ สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในรายงานเบื้องต้นว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2568 ของญี่ปุ่น หดตัวลง 1.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบหกไตรมาส โดยถูกกดดันจากการส่งออกที่อ่อนแอลง อันเนื่องมาจากการที่สหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีศุลกากร รวมทั้งการชะลอตัวของการลงทุนด้านที่อยู่อาศัย

อย่างไรก็ดี ตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะหดตัว 2.5% โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในภาครัฐ

ส่วนเมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ตัวเลข GDP ไตรมาส 3 หดตัวลง 0.4% ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะหดตัว 0.6%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ