ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 41.49 จุด นลท.จับตาข้อมูลเศรษฐกิจประเมินดอกเบี้ยเฟด

ข่าวต่างประเทศ Tuesday December 16, 2025 06:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเล็กน้อยในวันจันทร์ (15 ธ.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการในสัปดาห์นี้ รวมทั้งติดตามความคืบหน้าในการสรรหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คนใหม่ และการแสดงความเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 48,416.56 จุด ลดลง 41.49 จุด หรือ -0.09%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,816.51 จุด ลดลง 10.90 จุด หรือ -0.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,057.41 จุด ลดลง 137.76 จุด หรือ -0.59%

นักวิเคราะห์จากบริษัท BMO Family Office กล่าวว่า นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายและจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร เพื่อประเมินว่าข้อมูลเหล่านี้จะสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกหรือไม่

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.และพ.ย. ในวันนี้ (16 ธ.ค.) และจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนพ.ย.ในวันพฤหัสบดีที่ 18 ธ.ค. นอกจากนี้ จะมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจอีกหลายรายการในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีก, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนจาก ADP และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการจาก S&P Global

นักลงทุนประเมินรายงานข่าวที่ว่า การเสนอชื่อเควิน แฮสเซตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติประจำทำเนียบขาวให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่นั้น กำลังเผชิญกับแรงต้านจากบุคคลที่ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แม้ในช่วงที่ผ่านมา แฮสเซตต์ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเชิงรุก ถือเป็นตัวเก็งที่จะเข้ามานั่งตำแหน่งประธานเฟดแทนเจอโรม พาวเวล ซึ่งจะครบวาระในเดือนพ.ค.ปีหน้า

นอกจากนี้ นักลงทุนยังประเมินความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด โดยจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กกล่าวว่า การที่เฟดตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้นโยบายการเงินของเฟดอยู่ในสถานะที่ดี ขณะที่สตีเฟน มิแรน ผู้ว่าการเฟดกล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันไม่ได้สะท้อนถึงพลวัตของอุปสงค์และอุปทานที่แท้จริง

หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์พุ่งขึ้น 1.27% ตามด้วยหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคปรับตัวขึ้น 0.88% ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงมากที่สุด โดยร่วงลง 1.04% ตามด้วยหุ้นกลุ่มพลังงานลดลง 0.76%

สำหรับหุ้นรายตัวนั้น หุ้น IRobot ผู้ผลิตหุ่นยนต์ดูดฝุ่นแบรนด์ "รูมบา" (Roomba) ทรุดตัวลง 72.7% หลังจากบริษัทยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์จากการล้มละลาย

หุ้น ServiceNow ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ร่วงลง 11.5% หลังมีรายงานว่าทางบริษัทกำลังเจรจาซื้อกิจการสตาร์ตอัป Armis

ส่วนหุ้น Tesla ดีดตัวขึ้น 3.5% หลังจากอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทเปิดเผยว่า Tesla กำลังทำการทดสอบแท็กซี่ไร้คนขับ (robotaxis)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ