ดาวโจนส์ร่วง นักลงทุนผิดหวังแถลงการณ์ร่วมหลังการประชุมซัมมิต"ทรัมป์-คิม"

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 12, 2018 21:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนผิดหวังต่อแถลงการณ์ร่วมในการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ

ณ เวลา 20.58 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,293.66 จุด ลดลง 28.65 จุด หรือ 0.11%

หุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวสวนทางตลาดวันนี้ โดยหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นจากการคาดการณ์ที่ว่า ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งจะช่วยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 12-13 มิ.ย. ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ โดยอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจะช่วยหนุนผลประกอบการของธนาคาร

นายแอนดรูว์ กิลโฮล์ม ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียเหนือของคอนโทรล ริสค์ กล่าวว่า แถลงการณ์ในการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐและผู้นำเกาหลีเหนือมีเนื้อหาที่สั้น, คลุมเครือ และขาดรายละเอียด ขณะที่เกาหลีเหนือไม่ได้แสดงความมุ่งมั่นครั้งใหม่ในการปลดอาวุธนิวเคลียร์

ด้านนายพารัก คานนา นักวิเคราะห์จากสถาบันนโยบายสาธารณะลี กวน ยู กล่าวว่า เขาคิดว่าแถลงการณ์ในการประชุมสุดยอดวันนี้ไม่ได้ให้คำจำกัดความที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปลดอาวุธนิวเคลียร์ โดยปธน.ทรัมป์มองว่าการปลดอาวุธนิวเคลียร์ คือการที่เกาหลีเหนือจะไม่มีอาวุธนิวเคลียร์อีกต่อไป แต่สำหรับนายคิมมองว่าการปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือจะต้องแลกกับการที่สหรัฐถอนทหารจนหมดจากเกาหลีใต้

ทั้งนี้ สาระสำคัญในแถลงการณ์ที่ปธน.ทรัมป์และนายคิมลงนามร่วมกัน ได้แก่:-

ผู้นำทั้งสอง:

-ตกลงที่จะสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีครั้งใหม่เพื่อให้มีสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในคาบสมุทรเกาหลี

-ตกลงที่จะร่วมมือกันสร้างกลไกสันติภาพที่ยั่งยืน และมีเสถียรภาพบนคาบสมุทรเกาหลี

-ตกลงที่จะค้นหาเชลยศึก และผู้ที่สูญหายไปในการทำสงครามเกาหลี

-ตกลงที่จะจัดการเจรจาทวิภาคีนำโดยนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีเหนือในไม่ช้า

ส่วนปธน.ทรัมป์ได้ให้คำมั่นที่จะค้ำประกันความมั่นคงต่อเกาหลีเหนือ ขณะที่นายคิมยืนยันที่จะดำเนินการไปสู่การปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังเกาะติดการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 14 มิ.ย. โดยคาดว่า ECB จะส่งสัญญาณปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จากระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน ซึ่งมีกำหนดสิ้นสุดในเดือนก.ย. และตลาดยังรอผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 14-15 มิ.ย.

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน โดยสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% เช่นกันในเดือนเม.ย.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 2.8% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2555 หลังจากเพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนเม.ย.

หากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนี CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน โดยสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนเม.ย.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พื้นฐานดีดตัว 2.2% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีที่แล้ว หลังจากเพิ่มขึ้น 2.1% ในเดือนเม.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ