ดาวโจนส์เปิดแดนลบ นักลงทุนจับตาผลประกอบการ,สงครามการค้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 23, 2018 21:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์เปิดแดนลบในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

ณ เวลา 21.06 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,039.82 จุด ลดลง 18.30 จุด หรือ 0.07%

หุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้นสวนทางตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้น 3M ปรับตัวลงมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก

บริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่รายงานผลประกอบการที่สดใสในไตรมาส 2 โดยบริษัทในดัชนี S&P 500 มากกว่า 17% ได้รายงานผลประกอบการแล้ว ซึ่งบริษัท 82% จากจำนวนดังกล่าวมีกำไรสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ราคาหุ้นของบริษัทแฮสโบร ซึ่งเป็นผู้ผลิตของเล่นเด็ก พุ่งขึ้นมากกว่า 12% หลังเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 2 มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ทั้งนี้ แฮสโบรระบุว่ามีกำไร 48 เซนต์/หุ้น โดยสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 29 เซนต์/หุ้น

นอกจากนี้ บริษัทรายงานรายได้ที่ระดับ 904.5 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 833.1 ล้านดอลลาร์

ฮัลลิเบอร์ตัน บริษัทผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยรายได้พุ่งขึ้นในไตรมาส 2 โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น

ทั้งนี้ ฮัลลิเบอร์ตัน เปิดเผยว่า บริษัทมีรายได้พุ่งขึ้นสู่ระดับ 6.15 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.11 พันล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ บริษัทมีกำไร 58 เซนต์/หุ้น ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่ม G20 ออกแถลงการณ์เตือนว่า สงครามการค้าและความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลก พร้อมกับเรียกร้องให้ทุกฝ่ายแก้ไขปัญหาดังกล่าวผ่านการเจรจาและดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม

แถลงการณ์ของกลุ่ม G20 มีขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่า เขาพร้อมที่จะเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้าทุกประเภทที่นำเข้าจากจีน หากมีความจำเป็น

ทั้งนี้ ในการให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว CNBC ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า "ผมพร้อมที่จะเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้าจากจีนในวงเงินสูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์"

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังได้วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยระบุว่า การดำเนินนโยบายของเฟดอาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าว หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรส ซึ่งเขาได้ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ