ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (23 พ.ย.) ในขณะที่นักลงทุนต่างจับตาการประชุมของสหภาพยุโรป (EU) ในวันที่ 25 พ.ย.นี้ ว่า สมาชิก EU จะอนุมัติร่างกรอบปฏิญญาว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) หรือไม่
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นไม่มากนัก เพราะนักลงทุนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน หลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาอ่อนแอกว่าการคาดการณ์ ประกอบกับการที่สัญญาน้ำมันดิบทรุดตัวอย่างต่อเนื่องเมื่อคืนนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 1.41 จุด หรือ 0.40% ปิดที่ 353.98 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,192.69 จุด เพิ่มขึ้น 54.20 จุด หรือ +0.49% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,952.86 จุด ลดลง 7.46 จุด หรือ -0.11% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,946.95 จุด เพิ่มขึ้น 8.82 จุด หรือ +0.18%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีอิทธิพลต่อการซื้อขายเมื่อคืนนี้ ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซนลดลงสู่ระดับ 52.4 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 47 เดือน จากระดับ 53.1 ในเดือนต.ค. โดยถูกกดดันจากการชะลอตัวลงของคำสั่งซื้อและยอดส่งออก
ขณะเดียวกัน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของเยอรมนี ลดลงสู่ระดับ 52.2 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 47 เดือนเช่นกัน
ส่วนหุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวลดลง หลังจากที่สัญญาน้ำมันดิบทรุดตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนจับตากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ซึ่งอาจปรับลดกำลังการผลิต 1.4 ล้านบาร์เรล/วันในการประชุมที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียในวันที่ 6 ธ.ค.
หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปรับตัวลดลง 3.35% หุ้นบีพี ปรับตัวลดลง 2.4% และหุ้นเรปซอล ปรับตัวลดลง 2.6%