ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: แรงซื้อเก็งกำไรหนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก นักลงทุนจับตาการค้าสหรัฐ-จีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday December 8, 2018 08:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากตลาดปิดร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขายในช่วงเวลาที่ข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังไม่มีแนวโน้มคลี่คลายลง

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดบวก 0.62% แตะที่ระดับ 345.45 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,813.13 จุด เพิ่มขึ้น 32.68 จุด หรือ +0.68% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,778.11 จุด เพิ่มขึ้น 74.06 จุด หรือ +1.10% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,788.09 จุด ลดลง 22.89 จุด หรือ 0.07%

นักลงทุนยังคงจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอย่างใกล้ชิด โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความล่าสุดเมื่อวานนี้ว่า "การเจรจาการค้ากับจีนกำลังดำเนินไปด้วยดี" พร้อมกับระบุว่า "คณะเจรจาทั้ง 2 ฝ่ายกำลังมีการหารือกันอย่างราบรื่น และมีความร่วมมือกันเป็นอย่างดี โดยเราเชื่อมั่นว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงภายในเวลา 90 วัน"

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนได้แสดงความกังวลหลังจากที่นายปีเตอร์ นาวาร์โร ซึ่งเป็นที่ปรึกษานโยบายการค้าประจำทำเนียบขาวและมีจุดยืนที่แข็งกร้าวต่อจีน ได้กล่าวแสดงความเห็นเมื่อวานนี้เช่นกันว่า สหรัฐจะปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน หากสองประเทศไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการเจรจาการค้าในช่วงเวลา 90 วัน

ทั้งนี้ ในการเจรจานอกรอบการประชุม G20 ที่อาร์เจนตินาเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เห็นพ้องกันให้เลื่อนกำหนดเวลาที่สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีกมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ ออกไปอีก 90 วัน จากกำหนดเดิมในวันที่ 1 ม.ค.2562 เพื่อเปิดทางให้ทั้งสองฝ่ายได้เดินหน้าเจรจายุติข้อพิพาทการค้าระหว่างกัน

หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านปรับตัวขึ้น นำโดยหุ้นเบิร์คลีย์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ พุ่งขึ้น 1.1% โดยปัจจัยที่ช่วยหนุนหุ้นดังกล่าวมาจากรายงานของธนาคารฮาลิแฟ็กซ์ซึ่งระบุว่า ราคาบ้านในอังกฤษปรับตัวขึ้น 0.3% ในช่วงเดือนก.ย.-พ.ย. ซึ่งยังคงอยู่ในช่วงตัวเลขคาดการณ์ที่ 0-3% สำหรับปีนี้

หุ้นเทสโก้ พุ่งขึ้น 2.7% หลังจากมีรายงานว่าผู้บริหารเทสโก้ 2 คนถูกปลดออกจากตำแหน่งในข้อหาฉ้อโกง

ส่วนหุ้นธุรกิจเฮลธ์แคร์ปรับตัวลง นำโดยหุ้น Fresenius ดิ่งลง 18.2% ขณะที่หุ้น Fresenius Medical ร่วงลง 8.9%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ