ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุดในวันนี้ จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน หลังจากตลาดดีดตัวขึ้นอย่างมากตั้งแต่ต้นเดือนนี้
ณ เวลา 21.43 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 31,253.52 จุด ลบ 132.24 จุด หรือ 0.42%
ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงในวันนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 7 วัน หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ โดยได้แรงหนุนจากความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
ทั้งนี้ พรรคเดโมแครตประสบความสำเร็จในการผลักดันให้สภาคองเกรสให้ความเห็นชอบต่อแนวทางการพิจารณาอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแบบ fast track โดยใช้แนวทางการจัดทำงบประมาณที่เรียกว่า budget reconciliation ซึ่งจะปูทางให้สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสามารถให้การรับรองงบประมาณดังกล่าวด้วยคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง แทนที่จะใช้คะแนนเสียง 2 ใน 3 สำหรับการผ่านกฎหมายทั่วไป และทำให้ปธน.ไบเดนสามารถผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว โดยไม่จำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรครีพับลิกัน
ทางด้านนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ คาดการณ์ว่า สภาคองเกรสจะสามารถลงมติให้การอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาชาวสหรัฐและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก่อนวันที่ 15 มี.ค. ซึ่งเป็นวันที่มาตรการช่วยเหลือผู้ว่างงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จะหมดอายุลง
นักลงทุนคาดการณ์ว่าสหรัฐจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าคาดเมื่อวันศุกร์
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่บริษัททวิตเตอร์และซิสโก้จะรายงานผลประกอบการในวันนี้
ในบรรดาบริษัทในดัชนี S&P 500 ที่ได้เสร็จสิ้นการรายงานผลประกอบการในไตรมาส 4/63 มีจำนวน 83.6% ที่รายงานตัวเลขรายได้และกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อสมาคมเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์กในวันพรุ่งนี้ โดยจะเป็นการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์