ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ก.ค.) เนื่องจากการทะยานขึ้นของราคาน้ำมันดิบหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นมากกว่า 2% และการเปิดเผยรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปได้ช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 455.63 จุด เพิ่มขึ้น 2.79 จุด หรือ +0.62%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,553.82 จุด เพิ่มขึ้น 45.99 จุด หรือ +0.71%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,603.81 จุด เพิ่มขึ้น 72.77 จุด หรือ +0.47% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,125.16 จุด เพิ่มขึ้น 87.69 จุด หรือ +1.25%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นโดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานซึ่งปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 1 เดือน หลังราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเกือบ 2% จากแนวโน้มอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก และสต็อกน้ำมันดิบที่ลดลงในสหรัฐ
นอกจากนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า โอเปกจะปรับเพิ่มการผลิตน้อยกว่าคาด ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำมันลดลง และหนุนราคาขึ้นในช่วงต่อไปของปีนี้
หุ้นที่เกี่ยวกับการเดินทางพุ่งขึ้น 1.9% หลังร่วงลง 4 วันติดต่อกันจากความวิตกเกี่ยวกับข้อจำกัดที่เพิ่มขึ้น หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นในเอเชียและสหราชอาณาจักร
หุ้นสายการบินอีซีเจ็ต, IAG ซึ่งเป็นเจ้าของสายการบินบริติช แอร์เวย์ และ ไรอันแอร์ ปรับตัวขึ้น 1.5-4%
ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนในปีนี้ หลังจากที่มีการระดมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด โดยความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 21 ปี
ข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในวันพฤหัสบดียืนยันว่า ภาคการผลิตของยูโรโซนขยายตัวในเดือนมิ.ย.ในอัตราสูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่มีการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า ยอดค้าปลีกในเยอรมนีดีดตัวขึ้นในเดือนพ.ค.
หุ้น Associated British Foods พุ่งขึ้น 4.8% หลังเปิดเผยยอดขายไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นมากเกินคาด
หุ้น Sodexo ของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 2.3% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้และผลกำไรครึ่งปีหลัง