นายพอล ทิวดอร์ โจนส์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของทิวดอร์ อินเวสเมนท์ ซึ่งเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์ขนาดใหญ่ กล่าวว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมีแนวโน้มที่จะดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดครั้งใหม่ แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ปรับลดอัตราภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากจีน
"สำหรับผม มันเป็นเรื่องที่ชัดเจนมาก โดยทรัมป์ต้องการเรียกเก็บภาษีศุลกากร ขณะที่เฟดไม่ต้องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งทั้งสองต่างก็ไม่ส่งผลดีต่อตลาดหุ้น และตลาดจะดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดครั้งใหม่ แม้ว่าทรัมป์ปรับลดอัตราภาษีที่เรียกเก็บจากจีนสู่ระดับ 50%"
"แม้ทรัมป์ปรับลดภาษีที่เรียกเก็บจากจีนสู่ระดับ 50% หรือ 40% แต่นั่นยังคงเป็นการเพิ่มขึ้นของอัตราภาษีครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1960 ซึ่งจะกระทบต่อการขยายตัวราว 2-3%" นายโจนส์กล่าวต่อสำนักข่าว CNBC
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากจีนสูงถึง 145% ส่งผลให้จีนตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีจากสินค้านำเข้าจากสหรัฐในอัตรา 125%
ก่อนหน้านี้ นายโจนส์ได้กลายเป็นผู้มีชื่อเสียง หลังจากที่เขาสามารถทำนายและทำกำไรได้จากเหตุการณ์ Black Monday ซึ่งตลาดหุ้นวอลล์สตรีททรุดตัวลงอย่างหนักในวันที่ 19 ต.ค.1987