แอปเปิ้ล (Apple) มีแผนเพิ่มทางเลือกการค้นหาด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้าไปในเบราว์เซอร์ Safari ของตน ซึ่งส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อกูเกิล (Google) เนื่องจากธุรกิจโฆษณาอันเป็นแหล่งรายได้หลักของกูเกิล พึ่งพาผู้ใช้งาน iPhone ที่ใช้ระบบเสิร์ชเอนจินของกูเกิลเป็นจำนวนมหาศาล
ข่าวดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาหุ้นของอัลฟาเบท (Alphabet) บริษัทแม่ของกูเกิล ซึ่งปิดตลาดเมื่อวานนี้ (7 พ.ค.) ร่วงลงถึง 7.26% ฉุดให้มูลค่าตลาดของบริษัทหายไปราว 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
แหล่งข่าวอ้างอิงคำให้การของเอ็ดดี คิว ผู้บริหารระดับสูงของแอปเปิ้ล ต่อศาลในคดีต่อต้านการผูกขาดของกูเกิลในตลาดเสิร์ชออนไลน์เมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า แอปเปิ้ลกำลังพิจารณาอย่างจริงจังที่จะปรับโฉม Safari โดยยอดการค้นหาผ่าน Safari ลดลงเป็นครั้งแรกในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ผู้ใช้หันไปพึ่งพาเครื่องมือ AI มากขึ้นเรื่อย ๆ
ด้านกูเกิลได้ออกมาตอบโต้ผ่านบล็อกของบริษัทว่า โดยรวมแล้วจำนวนการค้นหายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการค้นหาทั้งหมดที่มาจากอุปกรณ์และแพลตฟอร์มของแอปเปิ้ล พร้อมเสริมว่า "ผู้คนมองเห็นว่า Google Search มีประโยชน์มากขึ้นสำหรับการค้นหาหลากหลายประเภท และผู้คนกำลังเข้าถึงมันเพื่อค้นหาสิ่งใหม่ ๆ ในรูปแบบใหม่ ๆ"
ถึงกระนั้น คำกล่าวของผู้บริหารแอปเปิ้ลก็ส่อเค้าว่าภูมิทัศน์ของตลาดการค้นหาข้อมูลกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซึ่งอาจสั่นคลอนธุรกิจค้นหาที่เคยผูกขาดโดยกูเกิลมายาวนาน ธุรกิจนี้ไม่เพียงเป็นช่องทางโฆษณาหลักของนักการตลาด แต่ยังตกเป็นเป้าการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแลการต่อต้านการผูกขาดของสหรัฐฯ ที่ยื่นฟ้องกูเกิลในคดีสำคัญอีกด้วย
ปัจจุบัน กูเกิลเป็นเสิร์ชเอนจินเริ่มต้นบนเบราว์เซอร์ Safari ของแอปเปิ้ล ซึ่งเป็นสถานะที่กูเกิลต้องจ่ายเงินให้แอปเปิ้ลราว 2 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี หรือคิดเป็นประมาณ 36% ของรายได้โฆษณาที่กูเกิลได้รับผ่าน Safari โดยนักวิเคราะห์มองว่า การสูญเสียสถานะผู้ให้บริการแต่เพียงผู้เดียวให้กับแอปเปิ้ล น่าจะส่งผลกระทบรุนแรงอย่างยิ่งต่อกูเกิล
อย่างไรก็ดี กูเกิลเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ แม้จะเคยถูกปรามาสว่าเป็นผู้ตามหลังในสมรภูมิ AI หลังการเปิดตัวของแชตจีพีที (ChatGPT) ที่สร้างปรากฏการณ์ไปทั่วโลกเมื่อปลายปี 2565 แต่กูเกิลก็ได้ทุ่มทุนมหาศาลเพื่อพัฒนาศักยภาพด้าน AI ของตนเอง โดยอาศัยคลังข้อมูลขนาดมหึมาที่มีอยู่
กูเกิลได้เปิดตัว "AI mode" บนหน้าค้นหาของตนเมื่อต้นปีนี้ เพื่อดึงดูดผู้ใช้งานหลายล้านคนไม่ให้เปลี่ยนไปใช้โมเดล AI คู่แข่ง นอกจากนี้ ล่าสุดยังได้ขยายบริการ AI Overviews (บทสรุปที่แสดงเหนือผลการค้นหาแบบเดิม) ให้ครอบคลุมผู้ใช้กว่า 100 ประเทศ พร้อมทั้งเริ่มผนวกโฆษณาเข้าไปในส่วนนี้ด้วย ซึ่งช่วยกระตุ้นยอดขายโฆษณาบน Google Search
ซุนดาร์ พิชัย ซีอีโอของกูเกิล ได้ให้การต่อศาลในคดีต่อต้านการผูกขาดเมื่อเดือนก่อนว่า กูเกิลหวังที่จะบรรลุข้อตกลงกับแอปเปิ้ลภายในกลางปีนี้ เพื่อนำเทคโนโลยี Gemini AI ของตนไปใส่ในโทรศัพท์ iPhone รุ่นใหม่ ๆ
ขณะเดียวกัน รายงานจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า เอ็ดดี คิว ได้กล่าวเมื่อวันพุธเช่นกันว่า ในอนาคตแอปเปิ้ลอาจเพิ่มผู้ให้บริการค้นหา AI รายอื่น ๆ เช่น โอเพนเอไอ (OpenAI) และเพอร์เพล็กซิตีเอไอ (Perplexity AI) เข้ามาเป็นตัวเลือกเพิ่มเติมบน Safari