สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (6 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้ออกมาส่งสัญญาณที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับช่วงเวลาในการทำข้อตกลงการค้ากับบรรดาประเทศคู่ค้า ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ (7 พ.ค.) ตามเวลาสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.59% แตะที่ระดับ 99.237
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 142.45 เยน จากระดับ 143.92 เยนในวันจันทร์ (5 พ.ค.), อ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8217 ฟรังก์ จากระดับ 0.8229 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3773 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3815 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1371 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1313 ดอลลาร์ในวันจันทร์ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3376 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3289 ดอลลาร์
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่าเขาและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลจะทบทวนข้อตกลงการค้าที่อาจเกิดขึ้นในช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้า เพื่อตัดสินใจว่าจะยอมรับข้อตกลงใดบ้าง แต่คำกล่าวของปธน.ทรัมป์ขัดแย้งกับที่สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้แถลงก่อนหน้านี้ว่า รัฐบาลอาจประกาศข้อตกลงการค้าบางส่วนได้เร็วที่สุดในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่าเขามีแผนที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ยาในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า ส่วนเรื่องการเจรจากับจีนนั้น ล่าสุดปธน.ทรัมป์ยอมรับว่าเขายังไม่ได้พบปะกับเจ้าหน้าที่ของจีนเพื่อหารือเกี่ยวกับการทำข้อตกลงทางการค้า
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าพุ่งขึ้น 14% สู่ระดับ 1.405 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.376 แสนล้านดอลลาร์ จากระดับ 1.232 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ.
ทั้งนี้ การนำเข้าพุ่งขึ้น 4.4% สู่ระดับ 4.190 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% สู่ระดับ 2.785 แสนล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันนี้ตามเวลาสหรัฐฯ โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมครั้งนี้ แม้ว่าปธน.ทรัมป์พยายามกดดันให้เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดเร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยก็ตาม