Analysis: พรรค LDP ของนายกฯอาเบะ มีแววคว้าชัยเลือกตั้งสภาสูงญี่ปุ่นอาทิตย์นี้

ข่าวต่างประเทศ Friday July 19, 2013 14:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ก่อนหน้าที่การเลือกตั้งสมาชิกสภาสูงของญี่ปุ่นจะเปิดฉากขึ้นในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ ศาสตราจารย์ชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงรายหนึ่งมองว่า พรรคเสรีประชาธิปไตย หรือแอลดีพี ซึ่งเป็นพรรคฝั่งรัฐบาล และพรรคพันธมิตรอย่างพรรคนิว โคไมอิโตะ จะได้รับคะแนนเสียงอย่างท่วมท้น ซึ่งปรากฎการณ์ดังกล่าวจะสะท้อนให้เห็นถึงความคาดหวังอย่างมากของประชาชนผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงว่านโยบายการขยายตัวโดยผ่อนคลายทางการเงินของรัฐบาล จะส่งผลดีต่อประเทศ

ในการเลือกตั้งสภาสูงครั้งที่ 23 นั้น จะมีการเลือกตั้งสมาชิกทั้งสิ้น 121 ราย หรือจำนวนครึ่งหนึ่งของสภา ซึ่งเป็นไปตามระบบเขตเลือกตั้งและผู้แทนตามสัดส่วน

มาซาฮิโร โกโบริ ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายของมหาวิทยาลัยริตสึเมอิกัง ในทางตะวันตกของเมืองเกียวโต ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จะเป็นประเด็นที่สำคัญที่สุดในการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ หลังจากที่ญี่ปุ่นไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ในช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมา

ศาสตราจารย์เน้นว่า นับตั้งแต่ที่มีการตั้งความหวังกันมากในหมู่ชาวญี่ปุ่นว่า รัฐบาลจะสามารถฟื้นเศรษฐกิจที่ซบเซาของประเทศ ซึ่งถดถอยมากไปกว่าเดิม หลังจากที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อปี 2554 และนโยบายเศรษฐกิจที่ถูกเรียกขานในชื่อ อาเบะโนมิคส์ ก็อาจจะทำหน้าที่เหมือนใบสั่งยาชั่วคราว ในการกระตุ้นเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจ

โกโบริ กล่าวว่า นโยบายผ่อนคลายทางการเงินในปัจจุบัน ซึ่งนายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีได้ผลักดันอย่างจริงจังนั้น ดูเหมือนว่า จะช่วยดึงราคาหุ้นให้ปรับตัวสูงขึ้นได้ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงจะยังรีรอที่จะใช้จ่ายเงิน จนกว่าประชาชนทั่วไปที่ไม่ใช่นักลงทุนในหุ้น จะมีมีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศ

ศาสตราจารย์ กล่าวว่า ญี่ปุ่นได้เผชิญกับช่วงเวลาที่ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นหลายครั้งในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา แต่สถานการณ์ดังกล่าวก็ไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์กับประชาชนทั่วไปในประเทศ ดังนั้น สิ่งที่สำคัญสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ก็คือ ผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงจะมีศรัทธาในนโยบายเศรษฐกิจล่าสุดหรือไม่

แต่ศาสตราจารย์ก็ได้เตือนว่า ผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียง โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน จะให้ความสนใจมากขึ้นเกี่ยวกับนโยบายทางสังคมและเศรษฐกิจที่ทางพรรคแอลดีพีจะผลักดัน อาทิ การผ่อนคลายกฎระเบียบในตลาดแรงงาน และสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ขณะที่ญี่ปุ่นเตรียมที่จะเข้าร่วมการเจรจาเปิดเสรีการค้าหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Partnership: TPP)

โกโบริกล่าวว่า ยกตัวอย่างเช่น พรรคแอลดีพีและพรรคฝ่ายค้านบางพรรคอย่างพรรคเจแปน รีสตอเรชั่น พาร์ตี และพรรคยัวร์ พาร์ตี มีจุดยืนที่ชัดเจนในการสนับสนุน TPP ขณะที่ประชาชนเองก็มีความคิดเห็นแตกต่างกันในประเด็นดังกล่าว โดยเฉพาะในแถบชนบท

โกโบริ กล่าวว่า การปฏิรูปรัฐธรรมนูญ จะเป็นอีกประเด็นที่สำคัญในการเลือกตั้งครั้งนี้ และยังเป็นเรื่องที่น่าสนใจในประเด็นที่ว่า พรรคแอลดีพีจะสามารถแข่งกับพรรคฝ่ายค้านในเรื่องการทบทวนรัฐธรรมนูญเพียงบางส่วนหรือทั้งหมดได้หรือไม่ โดยก่อนหน้านี้ พรรคแอลดีพีประเมินว่า จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตรา 96 ก่อน

มาตรา 96 นั้น ระบุว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ จะต้องริเริ่มโดยสภาไดเอ็ท หากสมาชิก 2 ใน 3 หรือทั้งหมดของสภาสูงและสภาล่างโหวตรับรอง

โกโบริ กล่าวต่อไปว่า ในขณะนี้ พรรคแอลดีพี ได้ยืนกรานในเรื่องการผ่อนคลายเงื่อนไขสำหรับการแก้รัฐธรรมนูญ ก่อนหน้าที่จะพยายามดำเนินการตามเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงมาตรา 96 ซึ่งห้ามไม่ให้ญี่ปุ่นทำสงคราม

แต่โกโบริ กล่าวว่า ความเป็นไปได้ของการดำเนินการดังกล่าวยังไม่ชัดเจน เนื่องจากนักการเมืองในระดับอาวุโส อย่างสมาชิกในพรรคพันธมิตรของแอลดีพี อย่างพรรคนิว โคไมอิโตะ ได้ออกมายอมรับว่า ขณะนี้ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการดำเนินการใดๆเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ

ประเด็นที่สำคัญอีกประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ คือ จุดยืนของทางพรรคการเมืองในเรื่องการดำเนินการของโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ท่ามกลางความกังวลเรื่องความปลอดภัย ภายหลังเกิดวิกฤตที่โรงงานนิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ซึ่งพรรคแอลดีพีต้องการที่จะเปิดโรงงานอีกครั้ง หลังจากที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เหล่านี้ถูกระงับการดำเนินการมาตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวในปี 2554

โกโบริ กล่าวว่า จำนวนที่นั่งที่พรรคแอลดีพีและพรรคฝ่ายค้านกวาดได้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ อาจจะเป็นมาตรวัดเสียงสนับสนุนในการเปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อีกครั้ง

เนื่องจากแกนนำพรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาธิปไตยของญี่ปุ่น หรือดีพีเจ ต้องสูญเสียฐานคะแนนไปในการเลือกตั้งสภาล่างเมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว และพรรคฝ่ายค้านพรรคอื่น ยกเว้นพรรคคอมมิวนิสต์ญี่ปุน หรือเจซีพี ไม่สามารถนำเสนอนโยบายที่ชัดเจน เพื่อเป็นทางเลือกที่เหมาะสมนอกเหนือจากพรรคแอลดีพีนั้น พรรคร่วมรัฐบาลจะต้องได้ชัยชนะ 70-80 ที่นั่งในการเลือกตั้ง ซึ่งจะสร้างความมั่นใจว่าจะได้ครองเสียงข้างมากในทั้งสองสภา

ศาสตราจารย์กล่าวว่า การยุติโครงสร้างการเผชิญหน้ากันระหว่างพรรคดีพีเจและพรรคแอลดีพี ภายหลังการเลือกตั้งครั้งนี้ จะบ่งชี้ถึงการสิ้นสุดลงของรัฐสภาสองขั้วที่พรรคดีพีเจมีเสียงข้างมากในสภาสูง ส่วนพรรคแอลดีพีมีเสียงข้างมากในสภาล่าง ซึ่งสถานการณ์รัฐสภาสองขั้วเช่นนี้ ส่งผลให้การอนุมัติกฎหมายใดๆก็ตามมีความล่าช้า

โดย อัตสึชิ เอบิฮารา สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ