กระทรวงเศรษฐกิจและการคลังเกาหลีใต้ได้ออกรายงาน "กรีนบุ๊ก" (Green Book) ในวันนี้ (16 พ.ค.) โดยระบุว่า รัฐบาลมีความกังวลว่าเศรษฐกิจจะเผชิญกับแรงกดดันให้อยู่ในช่วงขาลง เนื่องจากผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และอุปสงค์ภายในประเทศที่ฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า
รายงาน Green Book ระบุว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้เผชิญกับแรงกดดันมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และมีความเสี่ยงอย่างมากที่จะเผชิญภาวะขาลง เนื่องจากปัจจัยภายนอกที่มีสาเหตุมาจากประกาศเรียกเก็บภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้การฟื้นตัวในหลายภาคส่วนของเกาหลีใต้เป็นไปอย่างเชื่องช้า ซึ่งรวมถึงการอุปโภคบริโภค และการลงทุนในภาคก่อสร้าง ตลอดจนการจ้างงานที่ยังคงอ่อนแอ โดยเฉพาะการจ้างงานในกลุ่มเปราะบาง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รายงาน Green Book ยังระบุว่า รัฐบาลมีความวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลก เนื่องจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ได้ส่งผลให้สภาพแวดล้อมทางการค้าย่ำแย่ลง และทำให้ตลาดการเงินทั่วโลกมีความผันผวนมากขึ้นด้วย
ยอดส่งออกของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 3.7% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี แต่ยอดส่งออกเฉลี่ยรายวันลดลง 0.7% ในเดือนดังกล่าว ส่วนการจ้างงานในเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 194,000 ตำแหน่ง เมื่อเทียบรายปี ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงเล็กน้อย สู่ระดับ 2.9%
ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่ม 2.1% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากเพิ่มขึ้น 2.1% ในเดือนมี.ค.เช่นกัน