สำนักงานสถิติของอิสราเอลเปิดเผยในวันอาทิตย์ (18 พ.ค.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอิสราเอลขยายตัว 3.4% ในไตรมาส 1/2568 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นอัตราขยายตัวที่เร็วขึ้นจากระดับ 1.9% ในไตรมาสก่อนหน้า โดยได้รับอานิสงส์การหยุดยิงชั่วคราวในฉนวนกาซาที่สิ้นสุดลงเมื่อกลางเดือนมี.ค.
อัตราขยายตัวในไตรมาสล่าสุดใกล้เคียงกับตัวเลข GDP ประจำปี 2568 ซึ่งธนาคารกลางอิสราเอลคาดการณ์ไว้ที่ 3.5%
สำนักงานฯ ระบุว่า GDP ต่อหัวในไตรมาส 1/2568 ดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยมีอัตราการเติบโตต่อปีอยู่ที่ 2.2% ซึ่งพลิกกลับจากการหดตัวในปี 2567
นอกจากนี้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสแรกยังได้รับแรงหนุนจากการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรที่พุ่งขึ้น 8.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน และการส่งออกที่เพิ่มขึ้น 6.2% ส่วนการก่อสร้างขยายตัวขึ้นถึง 44.8% แต่สำนักงานสถิติระบุว่า การเพิ่มขึ้นดังกล่าวยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำ ใกล้เคียงกับไตรมาสที่ 4/2564
รายงานระบุว่า ข้อมูลดังกล่าวเปิดช่องให้ธนาคารกลางยังคงสามารถตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไปได้ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อในเดือนเม.ย.จะพุ่งขึ้น 1.1% ก็ตาม
ทั้งนี้ ธนาคารกลางอิสราเอลคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะเติบโต 3.5% ในปีนี้ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว เศรษฐกิจจะต้องเติบโตในระดับเดียวกันนี้ในอีกสามไตรมาสข้างหน้า ซึ่งอาจเป็นเรื่องยาก หากการเจรจาหยุดยิงที่ดำเนินอยู่ในขณะนี้ไม่เป็นผล