กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันอังคาร (1 ก.ค.) ว่า ราคาเฉลี่ยของที่ดินในญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 2.7% ในปี 2568 นับเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 4 และเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราเร็วที่สุดนับตั้งแต่เปลี่ยนวิธีการคำนวณเมื่อปี 2553 อันเป็นผลมาจากภาคการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ราคาที่ดินยังได้รับแรงหนุนจากการพัฒนาบริเวณรอบ ๆ สถานีรถไฟในเขตเมือง ส่งผลให้ราคาเฉลี่ยปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน แม้ว่าที่ดินในพื้นที่ชนบทบางแห่งยังคงมีมูลค่าลดลงก็ตาม
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ผลการสำรวจราคาที่ดินต่อ 1 ตารางเมตรที่ติดถนนสายหลักล่าสุดของสำนักงานภาษีแห่งชาติได้ถูกใช้ในการคำนวณภาษีมรดกและภาษีของขวัญ โดยอิงจากข้อมูลที่รวบรวมโดยกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยว และสะท้อนถึงการทำธุรกรรมที่ดิน
เมื่อพิจารณาเป็นรายจังหวัดพบว่า ราคาที่ดินในกรุงโตเกียวพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 8.1% ตามมาด้วยโอกินาว่าที่ 6.3% และฟุกุโอกะที่ 6.0% โดยมีจำนวนจังหวัดที่ราคาที่ดินปรับตัวขึ้นเพิ่มขึ้นจาก 29 จังหวัดในปี 2567 เป็น 35 จังหวัดในปี 2568
ทั้งนี้ ที่ดินบริเวณถนนคามินาริมง ในเขตท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างอาซากุสะของกรุงโตเกียว พุ่งขึ้น 29% ซึ่งถือเป็นการปรับตัวขึ้นสูงที่สุดในเมืองหลวง
ขณะเดียวกัน แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมนอกกรุงโตเกียวก็มีราคาที่พุ่งขึ้นอย่างมากเช่นกัน โดยราคาที่ดินในหมู่บ้านบนภูเขาฮาคุบะในจังหวัดนากาโนและเมืองฟุราโนะใกล้กับพื้นที่เล่นสกีฮอกไกโดมีราคาเพิ่มขึ้น 32.4% และ 30.2% ตามลำดับ