สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์ รายงานในวันนี้ (5 ส.ค.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้นเพียง 0.9% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการขยายตัวที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปี และชะลอตัวลงอย่างมากจากเดือนมิ.ย.ที่ปรับตัวขึ้น 1.4%
ดัชนี CPI เดือนก.ค.ของฟิลิปปินส์อยู่ในระดับต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.1% และยังคงต่ำกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางฟิลิปปินส์กำหนดไว้ในช่วง 2% - 4% ซึ่งอาจเปิดทางให้ธนาคารกลางเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากที่ปรับลดลง 0.50% นับตั้งแต่เดือนเม.ย.
อีไล เรโมโลนา ผู้ว่าการธนาคารกลางฟิลิปปินส์ เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ธนาคารกลางยังคงพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 28 ส.ค. ส่วนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งหลังสุดมีขึ้นในการประชุมเดือนมิ.ย. ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยถูกปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 5.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี
นอกจากนี้ เรโมโลนา และเจ้าหน้าที่เศรษฐกิจรายอื่น ๆ ของฟิลิปปินส์กล่าวว่า อัตราภาษีศุลกากร 19% ที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าของฟิลิปปินส์นั้น คาดว่าจะส่งผลกระทบเล็กน้อยต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยอัตราภาษีที่ระดับดังกล่าวสอดคล้องกับที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากประเทศส่วนใหญ่ในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้