สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์ รายงานในวันนี้ (10 ก.ย.) ว่า อัตราว่างงานพุ่งขึ้นแตะระดับ 5.3% ในเดือนก.ค. จากระดับ 3.7% ในเดือนมิ.ย. โดยอัตราว่างงานเดือนก.ค.ถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีหรือนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2565
การพุ่งขึ้นของอัตราว่างงานในเดือนก.ค.มีสาเหตุมาจากผลกระทบของพายุไต้ฝุ่นและฝนตกหนักในฤดูมรสุม ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับผลกระทบจากพายุหมุนเขตร้อน
ฟิลิปปินส์เผชิญพายุไต้ฝุ่น 4 ลูกและมรสุมรุนแรงซึ่งทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วประเทศในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต น้ำท่วม และสร้างความเสียหายต่อภาคการเกษตร โดยฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีแนวโน้มจะเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติมากที่สุดในโลก โดยมีพายุหมุนพัดผ่านประมาณ 20 ลูกในแต่ละปี
เดนนิส มาปา นักสถิติประจำสำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์กล่าวว่า อุตสาหกรรมในภาคส่วนที่มีความอ่อนไหวต่อสภาพอากาศอันเลวร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการเกษตรและการประมง มีการจ้างงานลดลง โดยภาคการเกษตรคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 1 ใน 5 ของตัวเลขจ้างงานทั้งหมดของประเทศ
ข้อมูลล่าสุดที่แสดงให้เห็นถึงผลกระทบของสภาพอากาศอันเลวร้ายที่มีต่อการจ้างงานนี้ เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่รัฐบาลฟิลิปปินส์กำลังสอบสวนการทุจริตในโครงการน้ำท่วมอีกด้วย โดยเมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา ราล์ฟ เรคโต รัฐมนตรีคลังฟิลิปปินส์ได้แถลงต่อวุฒิสภาว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์สูญเสียงบประมาณที่ใช้สำหรับโครงการป้องกันน้ำท่วมไปกับการทุจริตมากถึง 70% ส่งผลให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจสูงถึง 2,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงสองปีที่ผ่านมา