กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น เปิดเผยในวันนี้ (31 ต.ค.) ว่า อัตราการว่างงานในเดือนก.ย. อยู่ที่ 2.6% ซึ่งเป็นระดับเดียวกับเดือนส.ค. ในขณะที่สภาวะตลาดแรงงานยังคงตึงตัว
รายงานอีกฉบับจากกระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่นระบุว่า อัตราส่วนตำแหน่งงานว่างต่อผู้สมัครงานในเดือนก.ย. อยู่ที่ 1.20 ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนส.ค. ซึ่งหมายความว่ามีตำแหน่งงานว่าง 120 ตำแหน่งสำหรับผู้หางานทุก 100 คน
เจ้าหน้าที่จากกระทรวงกิจการภายในฯ กล่าวว่า "สถานการณ์ตลาดแรงงานไม่ได้เลวร้าย" พร้อมเสริมว่า ตลาดแรงงานดูเหมือนจะขยายตัวขึ้น โดยมีผู้หญิงเข้ามาทำงานประจำมากขึ้น
กระทรวงกิจการภายในฯ ระบุว่า แม้จะเป็นข้อมูลที่ยังไม่ได้ปรับตามปัจจัยฤดูกาล แต่จำนวนแรงงานหญิงมีทั้งสิ้น 31.53 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการเก็บข้อมูลเมื่อเดือนม.ค. 2496
นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า ภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานซึ่งเป็นผลมาจากจำนวนประชากรที่ลดลง ถือเป็นสัญญาณบวกที่บ่งชี้ว่า แนวโน้มการปรับขึ้นค่าจ้างในช่วงที่ผ่านมาจะยังคงดำเนินต่อไป แม้จะเป็นการเพิ่มขึ้นในเชิงตัวเลขก็ตาม อย่างไรก็ดี บริษัทบางแห่งกลับ "รอดูท่าทีไปก่อน" เกี่ยวกับสถานการณ์การจ้างงาน เนื่องจากค่าจ้างขั้นต่ำรายชั่วโมงเริ่มปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่เดือนต.ค.
เมื่อพิจารณาข้อมูลที่ปรับตามฤดูกาลแล้ว จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้นราว 20,000 คน หรือ 1.1% จากเดือนส.ค. มาอยู่ที่ 1.81 ล้านคนในเดือนก.ย. ขณะที่จำนวนผู้มีงานทำเพิ่มขึ้น 0.4% สู่ระดับ 68.34 ล้านคน
ทั้งนี้ ราคาสินค้าที่สูงขึ้นได้เพิ่มความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก อย่างไรก็ตาม คาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (30 ต.ค.) ว่า ธนาคารกลางต้องการรอดูความคืบหน้าของการเจรจาค่าจ้างประจำปีระหว่างสหภาพแรงงานกับฝ่ายบริหารในช่วงต้นปีหน้าก่อน