กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตรารวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2556 ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ค.จะอยู่ที่ 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย.
โดยราคาพลังงานเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 0.9% จากเดือนก่อนหน้า นำโดยค่าไฟฟ้าและราคาน้ำมันเบนซิน ขณะที่ราคาอาหารปรับตัวขึ้น 0.5%
ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานที่มีความผันผวน ปรับตัวขึ้น 0.3% มากสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2554 โดยราคาที่อยู่อาศัย รถยนต์ ตั๋วเครื่องบิน บริการทางการแพทย์ และยาตามใบสั่งแพทย์ล้วนปรับตัวสูงขึ้น
เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ดัชนี CPI เดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 2.1% ซึ่งเป็นอัตราที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่ต.ค.2555 และดัชนี CPI พื้นฐาน เพิ่มขึ้น 2% ซึ่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีที่แล้ว
ตัวเลขเงินเฟ้อที่ได้รับการเปิดเผยล่าสุดนี้อาจส่งผลต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐเกี่ยวกับการดำเนินนโนบายการเงิน และการกำหนดอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อไว้ที่ราว 2% ซึ่งเป็นสัญญาณถึงความมีเสถียรภาพด้านราคา และการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง โดยคณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟดมีกำหนดการประชุมในวันที่ 17-18 มิ.ย.นี้