ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ร่วงลงสู่ระดับ 49.4 ในเดือนก.พ. ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ก่อนหน้านี้ ดัชนี PMI ภาคบริการแตะระดับ 53.4 ในเดือนม.ค.
ดัชนี PMI ถูกกดดันจากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่การจ้างงานแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว แต่ความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจสำหรับช่วง 12 เดือนข้างหน้าแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน
ดัชนี PMI อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ในเดือนก.พ. ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคบริการของสหรัฐอยู่ในภาวะหดตัว โดยหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี
อย่างไรก็ดี ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) พบว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 57.3 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีที่แล้ว จากระดับ 55.5 ในเดือนม.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 54.9
ดัชนีภาคบริการของสหรัฐได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงาน
ดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ โดยมีการขยายตัวเป็นเดือนที่ 121
ทั้งนี้ ดัชนีภาคบริการของ ISM ประกอบด้วยอุตสาหกรรม 17 กลุ่ม ซึ่งรวมถึงอสังหาริมทรัพย์ การขนส่ง การก่อสร้าง และเหมืองแร่