แอปเปิ้ล อิงค์ (Apple Inc) เปิดเผยกำไรและรายได้ที่สูงเกินคาดในไตรมาส 2 ของปีงบการเงิน 2568 ซึ่งสิ้นสุดในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา โดยกำไรต่อหุ้นในไตรมาสดังกล่าวอยู่ที่ 1.65 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.63 ดอลลาร์ และรายได้อยู่ที่ 9.54 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 9.466 หมื่นล้านดอลลาร์
สำหรับตัวเลขรายได้ด้านอื่น ๆ ของแอปเปิ้ลนั้น รายได้จากผลิตภัณฑ์ iPhone อยู่ที่ 4.684 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4.584 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่รายได้จากผลิตภัณฑ์ iPad อยู่ที่ 6.4 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 6.20 พันล้านดอลลาร์
รายได้จากผลิตภัณฑ์ Mac อยู่ที่ระดับ 7.95 พันล้านดอลลาร์ มากกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 7.77 พันล้านดอลลาร์ ส่วนรายได้จากบริการต่าง ๆ อยู่ที่ 2.665 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.670 หมื่นล้านดอลลาร์ และอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) อยู่ที่ 47.1% สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ในการประกาศผลประกอบการครั้งนี้ ทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของแอปเปิ้ลได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรที่มีต่อธุรกิจของบริษัทเป็นครั้งแรก โดยเขากล่าวว่ามาตรการภาษีมีผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาส 2 ของแอปเปิ้ลแค่ในวงจำกัด เนื่องจากบริษัทสามารถปรับห่วงโซ่อุปทานให้มีความเหมาะสมได้
อย่างไรก็ดี ทิม คุก กล่าวว่า เป็นเรื่องยากมากที่จะคาดการณ์สถานการณ์ในช่วงหลังเดือนมิ.ย. เนื่องจากเขาไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับภาษีศุลกากร ซึ่งการแสดงความเห็นดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นแอปเปิ้ลร่วงลงกว่า 3% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วงเช้าวันนี้ (2 พ.ค.)