สถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และบรรดาประเทศคู่ค้า เริ่มส่งสัญญาณคลี่คลายลง และมีแนวโน้มว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงการค้าร่วมกัน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นเอเชียฟื้นตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ (2 พ.ค.)
สัญญาณความคืบหน้าดังกล่าวมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวในการประชุมทาวน์ฮอลล์ (Town Hall) ที่สถานีโทรทัศน์นิวส์เนชัน (NewsNation) ว่า เขามีข้อตกลงการค้า "ที่เป็นไปได้" กับอินเดีย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ในขณะที่เขากำลังหาลู่ทางที่ปรับเปลี่ยนนโยบายภาษีศุลกากรให้กลายเป็นข้อตกลงทางการค้า
ในเวทีประชุมดังกล่าวซึ่งจัดขึ้นในวันพุธ (30 เม.ย.) เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเขาจะประกาศข้อตกลงการค้ากับอินเดีย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นเมื่อใด ซึ่งทรัมป์กล่าวว่า เขามีข้อตกลงที่เป็นไปได้กับประเทศเหล่านี้ อย่างไรก็ดี ทรัมป์กล่าวว่าเขาไม่เร่งรีบที่จะสรุปข้อตกลง เพราะสหรัฐฯ กำลังได้รับประโยชน์จากภาษีศุลกากรที่เขาประกาศใช้
นอกจากนี้ สัญญาณความคืบหน้ายังมีความชัดเจนมากขึ้น เมื่อโฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนแถลงในวันนี้ว่า จีนกำลังประเมินสถานการณ์ หลังจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้ติดต่อมา "ผ่านฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องหลายครั้ง" เพื่อขอเจรจาเรื่องภาษีศุลกากร
ในแถลงการณ์ดังกล่าว ทางการจีนยังคงยืนกรานตามข้อเรียกร้องเดิม ที่ต้องการให้สหรัฐฯ แก้ไขการกระทำที่ไม่ถูกต้อง โดยต้องยกเลิกกำแพงภาษีทั้งหมดที่ได้ตั้งขึ้นแต่เพียงฝ่ายเดียว หากสหรัฐฯ ไม่ดำเนินการดังกล่าว จะถือเป็นการแสดงความไม่จริงใจและจะยิ่งบั่นทอนความไว้วางใจซึ่งกันและกัน