เมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes-Benz) บริษัทผลิตรถยนต์หรูของเยอรมนี เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (12 พ.ค.) ว่า เตรียมสร้างโรงงานผลิตรถ SUV รุ่น GLC ในรัฐแอละแบมาของสหรัฐฯ เพื่อเลี่ยงภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และคาดว่าจะเริ่มการผลิตได้ภายในปลายปี 2570
เจสัน ฮอฟฟ์ ผู้บริหารสูงสุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประจำทวีปอเมริกาเหนือ ระบุว่า การย้ายฐานผลิตมายังสหรัฐฯ ถือเป็นแนวทางสมเหตุสมผล เมื่อพิจารณาจากเป้าหมายของยอดขายรุ่น GLC ที่บริษัทฯ ต้องการบรรลุ
เมื่อปีที่ผ่านมา เมอร์เซเดส-เบนซ์ ขายรถรุ่น GLC ไป 64,163 คันในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 58% เมื่อเทียบรายปี ส่งผลให้ GLC กลายเป็นรุ่นนำเข้าที่ทำยอดขายสูงสุดของแบรนด์
ปัจจุบัน รถรุ่น GLC ผลิตในเยอรมนีและส่งออกมาจำหน่ายในสหรัฐฯ โดยมีราคาขายเริ่มต้นประมาณ 50,000 ดอลลาร์ การเพิ่มภาษีนำเข้าจึงทำให้ต้นทุนสูงขึ้น และกระทบความสามารถในการแข่งขัน
อย่างไรก็ดี นอกจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ค่ายรถยนต์เยอรมนีหลายแบรนด์อย่างบีเอ็มดับเบิลยู (BMW) และปอร์เช่ (Porsche) ต่างประสบปัญหาคล้ายกันจากนโยบายภาษีนำเข้าของทรัมป์ ขณะที่ตลาดสหรัฐฯ ยังคงมีความต้องการรถ SUV สูง และอัตราการเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้า (EV) ช้ากว่าภูมิภาคอื่น
ทั้งนี้ การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนกลยุทธ์ของผู้ผลิตรถยุโรปเพื่อปรับตัวตามนโยบายการค้าที่เข้มงวดขึ้นของสหรัฐฯ และยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่สำคัญ