ตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มเปิดลบในวันนี้ (15 พ.ค.) หลังจากปรับตัวขึ้นส่วนใหญ่เมื่อวานนี้ขานรับความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่คลี่คลายลง
ดัชนีฟิวเจอร์หุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงในการซื้อขายเมื่อคืนวานนี้ (14 พ.ค.) หลังจากดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่สามติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากการที่จีนและสหรัฐฯ ได้ตกลงยุติข้อพิพาทเรื่องภาษีตอบโต้กันชั่วคราวเมื่อต้นสัปดาห์นี้
-- เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันพุธ (14 พ.ค.) ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จะไม่เดินทางไปยังตุรกีเพื่อร่วมการเจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครนในวันนี้ (15 พ.ค.)
เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวให้สัมภาษณ์หลังจากที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ประกาศรายชื่อคณะผู้แทนรัสเซียที่จะเข้าร่วมการเจรจา ซึ่งรายชื่อดังกล่าวไม่มีชื่อปธน.ปูติน โดยก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยคิดที่จะเดินทางไปยังตุรกี หากปูตินเดินทางไปยังตุรกีเช่นกัน
-- ทำเนียบขาวแถลงว่า สหรัฐฯ สามารถบรรลุข้อตกลงทางเศรษฐกิจจากกาตาร์คิดเป็นมูลค่าอย่างน้อย 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ในการซื้อเครื่องบินจากบริษัทโบอิ้ง ในระหว่างที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เดินทางเยือนกาตาร์เมื่อวานนี้ (14 พ.ค.)
บริษัทโบอิ้ง และจีอี แอโรสเปซ สามารถบรรลุข้อตกลงวงเงิน 96,000 ล้านดอลลาร์ในการขายเครื่องบิน 210 ลำให้แก่สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์
-- กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เปิดเผยรายงานภาวะตลาดน้ำมันประจำเดือนพ.ค. โดยระบุว่า อุปสงค์น้ำมันโลกจะมีการขยายตัว 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทั้งในปี 2568 และ 2569 โดยไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนเม.ย.
รายงานระบุว่า คาดว่าความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกเฉลี่ยอยู่ที่ 105 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2568 โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการเดินทางทั้งทางรถยนต์และเครื่องบินที่แข็งแกร่ง รวมทั้งกิจกรรมในภาคอุตสาหกรรม การก่อสร้าง และการเกษตรในประเทศที่อยู่นอกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ขณะที่การเพิ่มกำลังการผลิตและอัตรากำไรของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในประเทศนอกกลุ่ม OECD ดังกล่าว ก็มีแนวโน้มที่จะช่วยสนับสนุนการขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันเช่นกัน
-- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ให้การต้อนรับอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่ทำเนียบเครมลินเมื่อวันพุธ (14 พ.ค.)
อันวาร์มีกำหนดเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 13-16 พ.ค.
-- สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 1.1% ในสัปดาห์ที่แล้ว แม้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวขึ้น
จำนวนผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์ลดลง 0.4% ในสัปดาห์ที่แล้ว แต่เพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
-- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ประจำเดือนเม.ย.ในวันนี้ (15 พ.ค.)
ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี PPI ทั่วไป (Headline PPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.5% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.7% ในเดือนมี.ค.
-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่จะเปิดเผยในวันนี้ (15 พ.ค.) ได้แก่ ออสเตรเลียเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนเม.ย., อินโดนีเซียเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนเม.ย., อังกฤษเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2568 (ประมาณการเบื้องต้น) และดุลการค้าเดือนมี.ค. และอียูเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2568 (ประมาณการครั้งที่สอง)
ส่วนสหรัฐฯ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย., ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนพ.ค.จากเฟดนิวยอร์ก, ดัชนีการผลิตเดือนพ.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมี.ค. และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนพ.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB)