รายงานจากสถาบันวิจัย ADP Research Institute เผยว่า แม้ตลาดแรงงานทั่วโลกจะมีการจ้างงานสูงเป็นประวัติการณ์ในปี 2567 แต่แรงงานส่วนใหญ่ยังคงประสบปัญหาทางการเงิน โดย 57% ของแรงงานทั่วโลกต้องใช้ชีวิตแบบ "เดือนชนเดือน" หรือมีรายได้พอใช้จ่ายไปวัน ๆ เท่านั้น
นอกจากนี้ รายงาน People at Work ประจำปี 2568 ของ ADP ซึ่งสำรวจข้อมูลจากแรงงานเกือบ 38,000 คนใน 34 ประเทศ ยังเผยให้เห็นด้วยว่า 23% ของแรงงานทั่วโลกต้องทำหลายงานเพื่อให้มีเงินพอกินพอใช้
ความตึงเครียดทางการเงินปรากฏชัดในสิงคโปร์ โดย 60% ของผู้ตอบแบบสอบถามในสิงคโปร์ระบุว่า พวกเขาใช้ชีวิตแบบเดือนชนเดือน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ 48% นอกจากนี้ แรงงานชาวสิงคโปร์กว่า 1 ใน 4 ทำงานควบหลายงาน ไม่เพียงเพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน แต่ยังเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวด้วย
เจสซิกา จาง รองประธานอาวุโสประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ ADP กล่าวว่า แม้ภาวะเงินเฟ้อจะเริ่มมีเสถียรภาพ แต่ชาวสิงคโปร์จำนวนมากยังมีรายได้เพียงพอแค่ประทังชีวิต โดยการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไม่ได้หมายความถึงการบรรเทาภาระทางการเงินได้ในทันที
รายงานยังเผยให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำอย่างมีนัยสำคัญในแต่ละภูมิภาค โดยประเทศที่มีอัตราส่วนแรงงานที่ใช้เงินแบบเดือนชนเดือนสูงที่สุด ได้แก่ อียิปต์ (84%), ซาอุดีอาระเบีย (79%) และฟิลิปปินส์ (78%) ขณะที่เกาหลีใต้มีสัดส่วนต่ำที่สุดเพียง 18% ส่วนภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกามีสัดส่วนการทำหลายงานสูงที่สุดในโลกที่ 34% ตามมาด้วยลาตินอเมริกาและเอเชียแปซิฟิกที่ 24% เท่ากัน
สำหรับแรงจูงใจในการทำงานเสริมนั้นแตกต่างกันไปตามช่วงวัย โดยคนรุ่นใหม่ทำงานเสริมเพื่อหาประสบการณ์หรือเพื่อการศึกษา ส่วนกลุ่มที่มีอายุมากกว่าจะให้ความสำคัญกับการหาเงินให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายหรือการออมเพื่อวัยเกษียณ
ผลสำรวจของ ADP ชี้ให้เห็นว่า นายจ้างจำเป็นต้องทบทวนกลยุทธ์การจ่ายค่าตอบแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) โดยเนลา ริชาร์ดสัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ADP ชี้ว่า สิทธิประโยชน์ทางเลือก เช่น ประกันสุขภาพ หรือเงินอุดหนุนค่าเลี้ยงดูบุตร สามารถช่วยบรรเทาแรงกดดันทางการเงิน มัดใจพนักงาน และสนับสนุนความยืดหยุ่นด้านกำลังคนได้