หุ้นกลุ่มบริษัทชิปในตลาดเอเชียพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ (16 ก.ค.) หลังจากบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า บริษัทจะกลับมาจำหน่ายชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รุ่น H20 ให้กับจีนในเร็ว ๆ นี้ หลังจากสหรัฐฯ เตรียมยกเลิกการควบคุมการส่งออกชิป
หุ้นไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง (TSMC) ปรับตัวขึ้น 0.9% โดย TSMC เป็นผู้ผลิตหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ประสิทธิภาพสูงให้กับอินวิเดีย เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM)
หุ้นหงไห่ พริซิชั่น อินดัสทรี (Hon Hai Precision Industry) หรือที่รู้จักกันในชื่อฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) ดีดตัวขึ้น 0.31% โดยหงไห่ได้ร่วมมือกับอินวิเดียเพื่อสร้าง "โรงงาน AI" ซึ่งจะนำชิปของอินวิเดียมาใช้ในแอปพลิเคชันหลากหลายประเภท รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้า และ LLM
หุ้นกลุ่มบริษัทชิปของญี่ปุ่นดีดตัวขึ้นเช่นกัน หลังจากข่าวความคืบหน้าของอินวิเดียทำให้นักลงทุนมีมุมมองบวกมากขึ้นต่ออุตสาหกรรม AI โดยหุ้นแอดวานเทสต์ (Advantest) ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์อุปกรณ์ทดสอบเซมิคอนดักเตอร์ ปรับตัวขึ้น 0.73% ขณะที่หุ้นซอฟต์แบงก์ (Softbank) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีของญี่ปุ่น ปรับขึ้น 0.48%
โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลเตรียมอนุญาตให้อินวิเดียกลับมาจำหน่ายชิป AI รุ่น H20 ให้กับจีนอีกครั้งนั้น เป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาแร่หายากกับรัฐบาลจีน เพื่อให้จีนกลับมาส่งออกแร่ดังกล่าวซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงให้แก่สหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ ในเดือนเม.ย. สหรัฐฯ เพิ่งบังคับใช้มาตรการจำกัดการส่งออกเพื่อป้องกันไม่ให้ชิป AI ที่ล้ำสมัยที่สุดตกไปถึงมือจีน แต่ล่าสุด อินวิเดียได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ (14 ก.ค.) ว่ากำลังยื่นขอใบอนุญาตเพื่อกลับไปขายชิป H20 (ซึ่งเป็นรุ่นที่ปรับลดคุณสมบัติเพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบการส่งออก) และได้รับการยืนยันจากรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าจะได้รับการอนุมัติในไม่ช้า โดยข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นอินวิเดีย ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ปิดตลาดพุ่งขึ้น 4% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กในวันอังคาร (15 ก.ค.)