รัฐบาลอินโดนีเซียประกาศลั่นพร้อมใช้เครื่องมือทางการคลังและการเงินเต็มกำลัง เพื่อผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตตามเป้าหมาย 5% ในปีนี้.
ในที่ประชุมคณะกรรมการเสถียรภาพระบบการเงิน (KSSK) เมื่อวันจันทร์ (28 ก.ค.) ผู้นำเศรษฐกิจชั้นนำของประเทศเน้นย้ำถึงมาตรการรักษาการเติบโต ท่ามกลางสถานการณ์การบริโภคภายในประเทศและภาคการผลิตที่อ่อนแรง รวมถึงความเสี่ยงจากมาตรการภาษีสหรัฐฯ และการค้าระหว่างประเทศที่ชะลอตัว
ศรีมุลยานี อินทราวาตี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า สารสำคัญครั้งนี้ชัดเจนว่า KSSK ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการคงเสถียรภาพของระบบการเงิน
ขุนคลังหญิงของอินโดนีเซียย้ำว่า รัฐบาลจะใช้เครื่องมือทางการคลัง การเงิน และกฎระเบียบ เพื่อรักษาแรงส่งของการเติบโต พร้อมประสานงานเพื่อรับมือความเสี่ยงจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ อินทราวาตีระบุว่า รัฐบาลเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดที่ 3 เพื่อหนุนภาคคมนาคม การท่องเที่ยว และกิจกรรมเศรษฐกิจช่วงปลายปี โดยมีเป้าหมายรักษาการเติบโตของ GDP ไว้ราว 5% ในปีนี้
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมิ.ย. รัฐบาลได้ออกมาตรการมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ครอบคลุมการเพิ่มเงินช่วยเหลือค่าจ้างและสวัสดิการสังคม รวมถึงส่วนลดค่าผ่านทาง ซึ่งคาดว่าจะมีส่วนหนุนการเติบโตของ GDP ในไตรมาส 2/2568 อย่างมีนัยสำคัญ