ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารในวันพุธ (13 ส.ค.) เพื่อผ่อนคลายกฎระเบียบและส่งเสริมความสามารถด้านการแข่งขันในอุตสาหกรรมอวกาศเชิงพาณิชย์
ทำเนียบขาวระบุในเอกสารสรุปข้อมูลสำคัญ (Fact Sheet) ว่า เพื่อให้สหรัฐฯ ยังคงมีบทบาทป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมอวกาศเชิงพาณิชย์ คำสั่งนี้ได้สั่งการให้รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของสหรัฐฯ เร่งรัดการตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อม สำหรับใบอนุญาตการปล่อยและนำยานกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก นอกจากนี้ คำสั่งดังกล่าวยังกำหนดให้มีการทบทวนข้อกำหนดด้านกฎระเบียบเพื่อยกเลิกกฎที่ล้าสมัย ซ้ำซ้อน หรือเข้มงวดเกินไป ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการปล่อยยานและนำยานกลับ
นอกจากนี้ คำสั่งดังกล่าวยังสั่งการให้รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ทำงานร่วมกับรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม และผู้อำนวยการองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือนาซา (NASA) เพื่อประเมินว่ารัฐต่าง ๆ ปฏิบัติตามกฎหมาย Coastal Zone Management Act (CZMA) หรือไม่ และพิจารณาว่ารัฐใดขัดขวางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของท่าอวกาศ (spaceport) ภายใต้กฎหมาย CZMA หรือมีการกำหนดข้อจำกัดที่ไม่สอดคล้องกับกฎหมายของรัฐบาลกลางหรือไม่
ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม และผู้อำนวยการ NASA ยังได้รับคำสั่งให้ปรับกระบวนการตรวจสอบของหน่วยงานให้สอดคล้องกัน เพื่อขจัดกฎระเบียบที่ซ้ำซ้อนและเร่งการพัฒนาท่าอวกาศ นอกจากนี้ คำสั่งดังกล่าวยังกำหนดให้มีการสร้างกระบวนการอนุญาตที่มีความคล่องตัว สำหรับกิจกรรมทางอวกาศใหม่ ๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ในอุตสาหกรรมด้านอวกาศที่กำลังเติบโต
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สื่อของสหรัฐฯ ตีความว่าคำสั่งนี้จะเอื้อประโยชน์มากเป็นพิเศษต่อบริษัทสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ของอีลอน มัสก์ โดยก่อนหน้าหน้านี้ มัสก์เคยแสดงความไม่พอใจว่าการตรวจสอบผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและการสอบสวนอุบัติเหตุหลังการบินได้ทำให้การทดสอบจรวดสตาร์ชิป (Starship) รุ่นใหม่ของสเปซเอ็กซ์ประสบกับความล่าช้าครั้งแล้วครั้งเล่า
ปัจจุบัน สเปซ์เอ็กซ์ เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอวกาศของสหรัฐฯ เมื่อพิจารณาจากความถี่ในการปล่อยจรวด โดยมีจำนวนการปล่อยจรวดมากกว่าองค์การ NASA