ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกในวันนี้ (16 ก.ย.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่จัดขึ้นในสเปนมีความคืบหน้าไปได้ด้วยดี
อย่างไรก็ตาม การเจรจาการค้าครั้งนี้ถูกบดบังด้วยข้อตกลงกรอบความร่วมมือเกี่ยวกับการขายกิจการติ๊กต็อกของจีน ซึ่งประกาศโดยสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ โดยเขากล่าวจากกรุงมาดริดว่า มีการตกลงเงื่อนไขทางการค้ากันเรียบร้อยแล้ว
ทั้งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน มีกำหนดหารือร่วมกันในวันศุกร์นี้เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเงื่อนไขดังกล่าว
-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุว่า มาตรการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการลดภาษีนำเข้ารถยนต์จากญี่ปุ่นลงเหลือ 15% จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ (16 ก.ย.) ถือเป็นช่วงเวลาราว 4 เดือนหลังจากนโยบายการค้าที่เข้มงวดของเขาเริ่มสร้างแรงกดดันต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเป็นภาคส่วนสำคัญของญี่ปุ่นที่เป็นพันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐฯ
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นเมื่อวันจันทร์ (15 ก.ย.) โดยก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้ปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ต่างประเทศเป็น 27.5% หลังจากทรัมป์ออกมาตรการภาษีเพิ่มเติมเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลด้านความมั่นคง ส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นและค่ายรถต่างชาติรายอื่น ๆ ต้องเผชิญกับผลกำไรที่หดตัวลง
-- นักลงทุนเทน้ำหนักเกือบ 100% กับการคาดการณ์ที่ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ ซึ่งจะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในปีนี้ โดยเฟดจะเริ่มวัฏจักรปรับลดอัตราดอกเบี้ย และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 3 ครั้งที่เหลือในปีนี้
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 96.2% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมวันที่ 17 ก.ย.นี้
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ทั้งในการประชุมเดือนต.ค.และธ.ค.
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และเมลาเนีย สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง มีกำหนดเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรในสัปดาห์นี้ และคาดว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงการค้าฉบับใหม่ ซึ่งจะรวมถึงเม็ดเงินลงทุนมูลค่ากว่า 10,000 ล้านดอลลาร์
เจ้าหน้าที่รายหนึ่งระบุว่า การเยือนครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้ปธน.ทรัมป์กระชับความสัมพันธ์กับสหราชอาณาจักร พร้อมกับผลักดันผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและนโยบายต่างประเทศ ขณะที่จะมีการลงนามในข้อตกลงการค้าครั้งประวัติศาสตร์
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ โพสต์ข้อความใน Truth Social เมื่อวานนี้ (15 ก.ย.) โดยเสนอแนวคิดที่ว่า บริษัทจดทะเบียนในสหรัฐควรรายงานผลประกอบการเป็นราย 6 เดือน แทนที่จะเป็นราย 3 เดือนหรือรายไตรมาสในปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นการประหยัดงบประมาณของบริษัท
"ขึ้นอยู่กับการอนุมัติของก.ล.ต. บริษัทและองค์กรต่าง ๆ ไม่ควรถูกบังคับให้ต้อง "รายงานผลประกอบการ" เป็นรายไตรมาสอีกต่อไป! แต่ควรรายงานทุก ๆ 6 เดือนแทน วิธีนี้จะช่วยประหยัดเงิน และทำให้ผู้บริหารสามารถมุ่งเน้นความสนใจไปที่การบริหารจัดการบริษัทได้อย่างถูกต้อง"
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ โพสต์ข้อความใน Truth Social เมื่อวานนี้ โดยส่งสัญญาณว่าสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงกับจีนเกี่ยวกับบริษัทติ๊กต๊อก (TikTok) แล้ว และปธน.ทรัมป์จะสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในวันศุกร์นี้
"การประชุมการค้าครั้งใหญ่ในยุโรประหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน เป็นไปอย่างดีมาก! โดยการประชุมดังกล่าวจะได้ข้อสรุปในไม่ช้า"
-- สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐฯ และจีนได้บรรลุกรอบข้อตกลงเกี่ยวกับบริษัทติ๊กต๊อก (TikTok) แล้ว
"นี่เป็นเรื่องระหว่างบริษัทเอกชนสองแห่ง แต่ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุเงื่อนไขเชิงพาณิชย์แล้ว" เบสเซนต์กล่าว และเสริมว่า กรอบข้อตกลงดังกล่าวจะปูทางให้ TikTok กลายเป็นบริษัทที่สหรัฐฯ ถือครองกรรมสิทธิ์
-- ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินกล่าวว่า รัสเซียยังคงเปิดกว้างต่อการเจรจาเกี่ยวกับยูเครน แม้การเจรจาดังกล่าวได้หยุดชะงักลงในขณะนี้
เพสคอฟกล่าวว่า รัสเซียมีความตั้งใจที่จะแก้ไขวิกฤตการณ์ในยูเครนผ่านแนวทางการเมืองและการทูต
อย่างไรก็ดี เพสคอฟกล่าวว่า การประชุมสุดยอดในประเด็นยูเครนจำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมอย่างเหมาะสม
-- ข้อมูลและเหตุการณ์เศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ (16 ก.ย.) เกาหลีใต้เปิดเผยราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนส.ค., อังกฤษเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนก.ค., อียูเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.และดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนก.ย.จากสถาบัน ZEW, เยอรมนีเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนก.ย.จากสถาบัน ZEW และสหรัฐฯ เปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนส.ค., ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนส.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค. และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ย.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB)