เอ็ตสึโระ ฮอนดะ ที่ปรึกษาด้านนโยบายเศรษฐกิจของซานาเอะ ทาคาอิจิ ว่าที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในการประชุมวันที่ 29-30 ต.ค.นี้ อาจจะเร็วเกินไป เนื่องจากเป็นช่วงหลังการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของทาคาอิจิ และน่าจะเป็นเรื่องที่เหมาะสมกว่าหาก BOJ จะเลื่อนเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นเดือนธ.ค.
ฮอนดะแสดงความเห็นในวันจันทร์ (6 ต.ค.) ว่า ในมุมมองของเขานั้น การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนต.ค. อาจจะเป็นเรื่องยาก ซึ่งแม้ว่าการดำเนินนโยบายการเงินจะขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาค แต่เขามองว่าการเลื่อนไปปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค.ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา
การแสดงความเห็นดังกล่าวของฮอนดะสะท้อนให้เห็นว่า BOJ อาจจำเป็นต้องรอคอยก่อนที่จะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แม้มีกระแสคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า BOJ จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หลังจากทาคาอิจิได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และคาดว่าจะขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่นในการลงคะแนนเสียงของรัฐสภาประมาณวันที่ 15 ต.ค.นี้
ทาคาอิจิเป็นที่รู้จักในฐานะผู้สนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงินและเป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจจากอดีตนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ขณะที่ฮอนดะเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในผู้ริเริ่มนโยบายอาเบะโนมิกซ์ (Abenomics) ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนการดำเนินนโยบายการคลังที่ยืดหยุ่นและนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย โดยในช่วงที่ญี่ปุ่นใช้นโยบายอาเบะโนมิกซ์นั้น BOJ และรัฐบาลญี่ปุ่นได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับเป้าหมายนโยบายโดยรวม โดยระบุให้ BOJ เป็นผู้กำหนดรายละเอียดและแนวทาง ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวยังคงมีผลบังคับใช้ในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ฮอนดะกล่าวว่า ทาคาอิจิต้องการให้ BOJ ดำเนินการอย่างระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าเธอจะไม่ได้ระบุถึงกรอบเวลาที่แน่นอนสำหรับการปรับขึ้นดอกเบี้ยก็ตาม โดยฮอนดะเป็นผู้ที่ให้คำแนะนำแก่ทาคาอิจิอย่างใกล้ชิดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และยังมีส่วนร่วมในการเขียนหนังสือเรื่อง "Study of National Power" ของทาคาอิจิเมื่อปีที่แล้วด้วย
ชัยชนะในการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้าพรรค LDP ของทาคาอิจิเป็นปัจจัยหนุนดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และฉุดเงินเยนอ่อนค่าลงหลุดจากระดับ 150 เยนต่อดอลลาร์ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่ารัฐบาลของทาคาอิจิจะนำไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจและชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ BOJ