จับตาเจรจาการค้า "ทรัมป์-สี" ส่อเค้าบดบังรัศมีการประชุมสุดยอด APEC ที่คยองจู

ข่าวต่างประเทศ Tuesday October 28, 2025 16:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

แม้ว่าบรรดาผู้นำจาก 21 เขตเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกจะเดินทางมารวมตัวกันที่เมืองคยองจู ประเทศเกาหลีใต้ ในสัปดาห์นี้ เพื่อเข้าร่วมสัปดาห์การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (AELW) แต่ดูเหมือนว่าวาระการประชุมอย่างเป็นทางการจะถูกลดทอนความสำคัญลงอย่างมาก เมื่อทุกความสนใจกลับมุ่งไปที่การประชุมเดิมพันสูงระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งประเทศจีน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อหาทางลดระดับความตึงเครียดของสงครามการค้าที่สร้างความเสียหายรุนแรงให้กับทั้งสองฝ่าย

ตลอดสัปดาห์แห่งการประชุมระดับสูงซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 ต.ค. ถึง 1 พ.ย. 2568 นี้ ประกอบด้วยการประชุมระดับรัฐมนตรีเอเปค และการประชุมสุดยอดซีอีโอเอเปค ก่อนจะปิดท้ายด้วยการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (AELM) ในวันพฤหัสบดีถึงวันเสาร์ (30 ต.ค. - 1 พ.ย.)

ในฐานะเจ้าภาพ ประธานาธิบดีอี แจ-มยอง แห่งเกาหลีใต้ แสดงความกระตือรือร้นที่จะผลักดันการหารือในประเด็นการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ห่วงโซ่อุปทาน และการขับเคลื่อนเขตการค้าเสรีแห่งเอเชีย-แปซิฟิก นอกจากนี้ ปธน.อียังหวังว่าจะมีความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงการค้าทวิภาคีกับสหรัฐฯ และยังได้เสนอให้ใช้เวทีการประชุมครั้งนี้เป็นโอกาสสำหรับการพบกันระหว่างปธน.ทรัมป์กับผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จองอึน

อย่างไรก็ตาม ไฮไลต์สำคัญที่สุดของการประชุมคือการหารือทวิภาคีระหว่างปธน.ทรัมป์กับปธน.สี ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันพฤหัสบดี ซึ่งตรงกับวันแรกของการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค และถือเป็นการพบกันซึ่งหน้าเป็นครั้งแรกของผู้นำทั้งสองนับตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สอง โดยถูกมองว่าเป็นโอกาสสำคัญอย่างยิ่งยวดในการหาทางออกจากวิกฤตความขัดแย้งทางเศรษฐกิจที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ

วาระเร่งด่วนที่สุดของการเจรจาคือประเด็นด้านการค้าและกำแพงภาษี หลังจากที่ทรัมป์เพิ่งขู่ว่าจะกำหนดภาษีศุลกากรเพิ่มเติมในอัตรา 100% กับสินค้าจากจีน และหลังจากการพูดคุยเบื้องต้นระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านเศรษฐกิจของทั้งสองชาติที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยทรัมป์ได้แสดงท่าทีในแง่ดีว่าจะสามารถบรรลุ "ข้อตกลงที่ครอบคลุมทุกมิติ" ซึ่งจะทำให้จีนเพิ่มการสั่งซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ และช่วยสกัดกั้นการลักลอบขนส่งยาเฟนทานิล (ยาเสพติดชนิดโอปิออยด์สังเคราะห์) จากจีน

หนึ่งในประเด็นขัดแย้งสำคัญที่คาดว่าจะมีการหยิบยกขึ้นมาพูดคุยคือ การที่จีนเพิ่งประกาศใช้มาตรการคุมเข้มการส่งออกแร่หายาก (Rare Earth) ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีและการป้องกันประเทศ โดยรัฐบาลปักกิ่งให้เหตุผลว่าข้อจำกัดดังกล่าวมีขึ้นจากความกังวลด้าน "ความมั่นคงของชาติ" ซึ่งมาตรการของจีนส่งผลให้รัฐบาลทรัมป์ต้องหาทางทำข้อตกลงจัดหาแร่หายากจากแหล่งอื่น เช่น ออสเตรเลียและไทย

นอกเหนือจากประเด็นการค้าแล้ว คาดว่าผู้นำทั้งสองจะหารือในประเด็นร้อนทางภูมิรัฐศาสตร์ด้วยเช่นกัน โดยทรัมป์มีความตั้งใจที่จะขอความร่วมมือจากจีนให้ช่วยกดดันรัสเซียให้ยุติสงครามในยูเครน แม้ว่าจีนจะแสดงท่าทีคัดค้านมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่มีต่อบริษัทน้ำมันของรัสเซียเมื่อไม่นานมานี้ก็ตาม

ประเด็นเรื่องไต้หวันก็จะถูกหยิบยกขึ้นมาหารือเช่นกัน หลังจากที่มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เพิ่งกล่าวยืนยันว่ารัฐบาลวอชิงตันจะไม่ละทิ้งการสนับสนุนไต้หวันเพื่อแลกกับข้อตกลงการค้าใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้ส่งสัญญาณว่าจะหยิบยกประเด็นเรื่องความเป็นไปได้ในการปล่อยตัว จิมมี ไหล เจ้าพ่อสื่อฮ่องกงที่ถูกคุมขังขึ้นมาเป็นหัวข้อในการหารือด้วย

แม้ว่าการพบกันระหว่างทรัมป์กับสีจะครองพื้นที่ข่าว แต่เวทีเอเปคในภาพรวมยังคงเป็นกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เอเปคก่อตั้งขึ้นในปี 2532 และปัจจุบันมีสมาชิก 21 เขตเศรษฐกิจ ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจรวมกันคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% ของ GDP โลก และมีประชากรรวมกันกว่า 40% ของประชากรโลก แม้ว่ามติของที่ประชุมจะไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย แต่กลุ่มเอเปคมีเป้าหมายหลักเพื่อลดอุปสรรคทางการค้า

สำหรับวาระการประชุมอย่างเป็นทางการในปีนี้ ยังครอบคลุมถึงประเด็นอื่น ๆ เช่น การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล การนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ประโยชน์ พลังงานที่ยั่งยืน ความมั่นคงทางอาหาร ตลอดจนการส่งเสริมโอกาสสำหรับสตรีและผู้พิการ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ